เปลือกมังคุดเป็นยา สัตวแพทย์จุฬาฯ จำลองสารเลียนแบบได้สำเร็จ! รักษาการอักเสบในลำไส้สัตว์และคน

12 ก.ค. 2565 14:38:55จำนวนผู้เข้าชม : 693 ครั้ง

สัตวแพทย์ จุฬาฯ วิเคราะห์และจำลอง “ไฮดรอกซี่แซนโทน” พัฒนาเลียนแบบสารสำคัญจากเปลือกมังคุด ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ กำจัดเชื้อโรคและยับยั้งการอักเสบเยื่อบุลำไส้ เล็งต่อยอดผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพสัตว์และคนในอนาคต
          “มังคุด” ราชินีแห่งผลไม้ไทย นอกจากจะมีรสชาติอร่อยและดีต่อสุขภาพแล้ว “เปลือกมังคุด” ยังอุดมด้วยสารมากคุณประโยชน์ นับแต่อดีต ภูมิปัญญาชาวบ้านใช้เปลือกมังคุดรักษาอาการท้องเสีย การติดเชื้อบริเวณผิวหนังและรักษาบาดแผลในสัตว์ และปัจจุบันก็มีการประยุกต์เอาสารสกัดเปลือกมังคุดมาผลิตยาและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สำหรับมนุษย์ เช่น พลาสเตอร์ยา เจลหรือหน้ากากที่ป้องกันเชื้อ เป็นต้น

          แต่เปลือกมังคุดมีดีมากกว่านั้นอีก ล่าสุด  รศ.สพ.ญ.ดร.สุทธาสินี ปุญญโชติ ภาควิชาสรีรวิทยา คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ประสบความสำเร็จในการพัฒนาสารที่จำลองและเลียนแบบโครงสร้างเคมีของสารสกัดจากเปลือกมังคุด ที่มีฤทธิ์ยับยั้งการรั่วซึมของลำไส้  ซึ่งจะส่งผลให้สุขภาพดี และลดการใช้ยาทั้งในคนและสัตว์ได้ท้ายที่สุด
                                                                               
Xanthones สารธรรมชาติมากคุณประโยชน์จากเปลือกมังคุด
          จากการวิจัยเปลือกมังคุดที่ไม่ใช้แล้ว รศ.สพ.ญ.ดร.สุทธาสินี พบสารสำคัญ “แซนโทน” (Xanthones) ซึ่งเป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอล มีคุณสมบัติในการต่อต้านหรือยับยั้งการอักเสบต่าง ๆ ในระดับที่ดีหลายประการ อาทิ ต้านเซลล์มะเร็ง (anti-cancer) ต้านเชื้อแบคทีเรีย (anti-bacterial) ต้านอาการภูมิแพ้ (anti-allergy) ต้านการอักเสบ (anti-inflammatory) ต้านการเจริญของจุลินทรีย์ (anti-microbial) ต้านเชื้อมาลาเรีย (anti-malarial) และต้านการออกซิเดชัน (anti-oxidant) เป็นต้น
          ด้วยสรรพคุณต้านการอักเสบและทำลายเชื้อโรคของสารแซนโทน รศ.สพ.ญ.ดร.สุทธาสินี ริเริ่มโครงการวิจัยร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เพื่อพัฒนาสังเคราะห์สารแซนโทนให้อยู่ในรูปของ  “ไฮดรอกซี่แซนโทน” (Hydroxy Xanthones; HDX) เพื่อมีฤทธิ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการดูแลสุขภาพของสัตว์และคน

          “การสกัดสารจากเปลือกมังคุดจะทำให้ได้สารที่หลากหลายทั้งที่มีคุณและเป็นโทษ นอกจากนี้ ยังต้องผ่านขั้นตอนหลายกระบวนการ รวมถึงไม่สามารถควบคุมคุณภาพของสารที่ได้จากเปลือกมังคุดด้วย เนื่องจากคุณภาพของสารในเปลือกมังคุดขึ้นอยู่กับกรรมวิธีการปลูก ปุ๋ย สภาพอากาศ และการดูแลต่าง ๆ” รศ.สพ.ญ.ดร.สุทธาสินี เผยโจทย์อันเป็นที่มาของงานวิจัยชิ้นนี้
          “เราจึงเลือกวิธีการวิเคราะห์และเลียนแบบโครงสร้างทางเคมีของสารแซนโทนจากเปลือกมังคุดขึ้นมา ซึ่งจะทำให้เราได้สารสำคัญที่ต้องการเน้น ๆ ง่ายต่อการนำไปใช้ได้โดยตรงเพื่อพัฒนาเป็นสารเสริมในยา อาหาร และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ และควบคุมประสิทธิภาพให้สมบูรณ์ที่สุดได้”

เยื่อบุลำไส้รั่วซึม เหตุก่อโรคทั้งในสัตว์และคน
          เยื่อบุลำไส้รั่วซึมเกิดขึ้นได้ในคนและสัตว์ ซึ่งนำไปสู่การก่อโรคหลายชนิดโดยเฉพาะ “โรคติดเชื้อในกระแสโลหิต (septicemia)” ที่ ‘แอบแฝงในร่างกาย’ เป็นภาวะที่ลำไส้มีการดูดซึมผิดปกติ เยื่อบุผนังลำไส้ (Microvilli) ทำงานผิดปกติ
          “นึกภาพการทำงานของเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้ที่เรียงตัวชิดติดกันเป็นระเบียบเพื่อทำหน้าที่คัดกรองและควบคุมสารพิษ หรือเชื้อโรคที่จะเข้าสู่กระแสเลือด เปรียบเหมือนป้อมปราการของร่างกาย เมื่อเซลล์เยื่อบุผนังลำไส้เกิดการอักเสบ เซลล์ไม่สามารถเรียงตัวชิดกัน ทำให้สารพิษหรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้ นับเป็นโรคที่มีความอันตราย ต้องรีบรักษาก่อนสาย” รศ.สพ.ญ.ดร.สุทธาสินี อธิบาย
          อาการของโรคลำไส้รั่ว มักจะไม่แสดงอาการใด ๆ หรืออาจมีอาการทางร่างกายส่วนอื่น ๆ เช่น เหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย ปวดหัวหรือปวดเมื่อยต่าง ๆ ของร่างกายที่ไม่ทราบสาเหตุ
          “สาเหตุของโรคยังไม่แน่ชัด แต่มีสมมติฐานว่าอาจเกิดจากความเครียด ซึ่งอาการเหล่านี้ถ้าเกิดกับคน ก็สามารถพบแพทย์ได้ทันที แต่หากเกิดกับสัตว์เป็นเรื่องที่ดูได้ยากมากว่าสัตว์กำลังป่วยอยู่หรือเปล่า”

เล็งพัฒนาสาร HDX สู่ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพคนและสัตว์
          ปัจจุบันงานวิจัยกำลังอยู่ในขั้นการทดลองเพื่อหาคุณภาพการทำงานของสาร HDX โดยเริ่มใช้กับฟาร์มสุกรก่อนที่จะขยายการทดลองใช้กับสัตว์ที่มีขนาดใหญ่และหลากหลายขึ้น
          “ในอนาคตจะมีการทดลองใช้เป็นสารเสริมในผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นยาหรืออาหารเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของมนุษย์และสัตว์” รศ.สพ.ญ.ดร.สุทธาสินี กล่าวทิ้งท้าย

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูล :  https://www.chula.ac.th/highlight/75301/