'ทำแท้งเถื่อน' วงจรมรณะที่รอการแก้ไข เมื่อชีวิตผู้หญิงถูกทิ้งไว้กับความเสี่ยง?

11 มี.ค 2568 16:49:08จำนวนผู้เข้าชม : 27 ครั้ง

ปัญหาที่ซ่อนเร้นและขยายตัวในโลกออนไลน์
ปัญหาการทำแท้งเถื่อนในประเทศไทยยังคงเป็นประเด็นที่ต้องได้รับความสนใจ แม้ว่ากฎหมายไทยจะมีการปรับปรุงเพื่อเปิดทางให้ผู้หญิงสามารถเข้าถึงการทำแท้งที่ปลอดภัยในบางกรณี แต่กลับพบว่าโซเชียลมีเดียได้กลายเป็นช่องทางหลักในการโฆษณาและจำหน่ายบริการทำแท้งเถื่อนที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง


ปัจจุบันมีเพจใน Facebook และบัญชี TikTok จำนวนมากที่โฆษณาการทำแท้งเถื่อนโดยอ้างว่าวิธีการเหล่านี้ "ปลอดภัย" และ "ได้ผลแน่นอน" โดยเฉพาะการขายยายุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ได้รับรองจากองค์การอาหารและยา รวมไปถึงการให้คำแนะนำที่เป็นอันตราย เช่น การใช้วัตถุแหลมเพื่อกระตุ้นการแท้ง ซึ่งเป็นวิธีที่ล้าหลังและเต็มไปด้วยความเสี่ยงร้ายแรงต่อชีวิตของผู้หญิง


ปัญหานี้ไม่เพียงเป็นเรื่องของสุขภาพ แต่ยังสะท้อนถึงข้อจำกัดของกฎหมาย การบังคับใช้ และการให้บริการสาธารณสุขที่ยังไม่ทั่วถึงเพียงพอ ทำให้ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อมจำนวนมากต้องเลือกเส้นทางที่เสี่ยงต่อชีวิตของตนเอง


มุมมองทางการแพทย์: อันตรายของการทำแท้งเถื่อน
การทำแท้งโดยใช้วิธีที่ไม่ปลอดภัย เช่น การใช้วัตถุแหลมแทงเข้าไปในมดลูก หรือการใช้ยาที่ไม่ได้รับการรับรองทางการแพทย์ อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรง เช่น การติดเชื้อในมดลูก การตกเลือดอย่างรุนแรง และการทะลุของผนังมดลูก ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดและเสียชีวิตได้

องค์การอนามัยโลก (WHO) รายงานว่า ทุกปีมีผู้หญิงเสียชีวิตจากการทำแท้งเถื่อนกว่า 70,000 ราย และอีกหลายล้านคนต้องเผชิญกับภาวะแทรกซ้อนรุนแรง โดยเฉพาะในประเทศที่การเข้าถึงบริการทำแท้งที่ปลอดภัยยังมีข้อจำกัด


ในประเทศไทย แม้ว่ากฎหมายจะเปิดช่องให้สามารถทำแท้งได้ในบางกรณี แต่ผู้หญิงจำนวนมากยังเข้าไม่ถึงบริการทางการแพทย์ที่ปลอดภัย ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นในการปรับปรุงระบบบริการสุขภาพ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิทธิด้านอนามัยเจริญพันธุ์


เหตุใดผู้หญิงยังต้องเลือกทำแท้งเถื่อน?
แม้ว่ากฎหมายไทยจะมีการปรับปรุงให้การทำแท้งถูกต้องตามกฎหมายในบางเงื่อนไข แต่ในทางปฏิบัติ ผู้หญิงจำนวนมากยังเลือกใช้บริการทำแท้งเถื่อน ส่วนหนึ่งเกิดจากแรงกดดันทางสังคม เช่น ความอับอาย ความกลัวการถูกประณามจากครอบครัว หรือคู่ครองที่ไม่รับผิดชอบ


จากการศึกษาพบว่า 90% ของผู้หญิงที่ต้องการทำแท้งเผชิญกับแรงกดดันทางสังคม ทำให้พวกเธอไม่กล้าเปิดเผยและเลือกหาทางออกด้วยตนเอง ซึ่งบางครั้งนำไปสู่การตัดสินใจที่เสี่ยงต่อชีวิต


นอกจากนี้ โรงพยาบาลของรัฐหลายแห่งยังมีข้อจำกัดในการให้บริการ เนื่องจากแพทย์บางคนปฏิเสธการทำแท้งจากเหตุผลทางศีลธรรม แม้ว่าจะเป็นกรณีที่กฎหมายอนุญาตก็ตาม ส่งผลให้ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ไม่พร้อมต้องหันไปพึ่งพาช่องทางเถื่อนที่ไร้มาตรฐาน


- กฎหมายทำแท้ง การปรับปรุงที่ยังไม่ครอบคลุม -
ปัจจุบัน กฎหมายทำแท้งในประเทศไทยถูกกำหนดภายใต้ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 301-305 ซึ่งระบุว่า


✓สามารถทำแท้งได้โดยถูกกฎหมาย หาก
อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์
- อายุครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ แต่ไม่เกิน 20 สัปดาห์ โดยต้องได้รับคำปรึกษาทางเลือกจากแพทย์
- อายุครรภ์เกิน 20 สัปดาห์ สามารถทำแท้งได้หากมีเหตุผลทางการแพทย์ เช่น ทารกในครรภ์มีความพิการร้ายแรง หรือเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมารดา


X ยังคงผิดกฎหมาย หาก
- หญิงที่ทำแท้งเองโดยไม่มีเงื่อนไขตามกฎหมาย
- บุคคลที่ทำแท้งให้หญิงโดยไม่ได้รับอนุญาตทางการแพทย์


แม้ว่ากฎหมายจะมีการปรับปรุง แต่การบังคับใช้ยังคงมีช่องโหว่ โดยเฉพาะกับการแพร่ระบาดของบริการทำแท้งเถื่อนในโซเชียลมีเดียที่ยังไม่สามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โซเชียลมีเดียกับความรับผิดชอบ


ในยุคดิจิทัล แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook และ TikTokได้กลายเป็นช่องทางหลักในการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการทำแท้งเถื่อน ซึ่งมักมาในรูปแบบของโฆษณาแฝงหรือการใช้รหัสลับเพื่อเลี่ยงการตรวจจับ แม้บริษัทเทคโนโลยีเหล่านี้จะมีมาตรการควบคุมเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย แต่ในทางปฏิบัติ กลุ่มที่ให้บริการทำแท้งเถื่อนยังสามารถปรับตัวและใช้ช่องโหว่ของระบบเพื่อนำเสนอข้อมูลให้เข้าถึงผู้ที่ต้องการได้ ส่งผลให้ผู้หญิงจำนวนมากได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อนและเลือกใช้วิธีการที่เสี่ยงต่อชีวิต


เพื่อแก้ปัญหานี้ แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองและปิดกั้นเนื้อหาที่ส่งเสริมการทำแท้งเถื่อนอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงต้องทำงานร่วมกับหน่วยงานรัฐและองค์กรด้านสุขภาพในการตรวจสอบและป้องกันการแพร่กระจายข้อมูลที่อันตราย นอกจากนี้ การส่งเสริมให้แพลตฟอร์มใช้เทคโนโลยี AI เพื่อตรวจจับและลบโฆษณาเหล่านี้โดยอัตโนมัติ จะช่วยลดช่องทางที่ทำให้ผู้หญิงตกเป็นเหยื่อของการทำแท้งที่ไม่ปลอดภัยและผิดกฎหมาย


เราจะหยุดวงจรอันตรายนี้ได้อย่างไร?
การทำแท้งเถื่อนไม่ใช่เพียงปัญหาทางสุขภาพ แต่เป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย สังคม และเทคโนโลยี การให้บริการทำแท้งที่ปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมายเป็นสิ่งสำคัญในการลดอัตราการเสียชีวิตของผู้หญิง ขณะที่โซเชียลมีเดียต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้นในการควบคุมเนื้อหาที่เป็นอันตราย


สิ่งสำคัญคือการให้ความรู้และการสร้างความเข้าใจว่า "ไม่มีผู้หญิงคนไหนตั้งใจตั้งครรภ์เพื่อมาทำแท้ง" แต่เมื่อพวกเธอไม่มีทางเลือก สังคมต้องมีระบบที่ปลอดภัยเพื่อปกป้องพวกเธอจากอันตรายที่ไม่จำเป็น

 


ที่มาข้อมูล : TNN เรียบเรียง
ที่มารูปภาพ : Freepik
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล : https://www.tnnthailand.com/tnnexclusive/188936/