ประโยชน์ของไวน์ที่คนดื่มไวน์ควรรู้ มีอะไรบ้าง?

12 มี.ค 2568 09:44:09จำนวนผู้เข้าชม : 26 ครั้ง

ไวน์ (wine) คืออะไร?
ไวน์ (wine) หมายถึง เครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ที่ได้จากการหมักน้ำผลไม้กับยีสต์ โดยควบคุมการหมักอย่างเหมาะสม ไวน์ที่ดื่มกันในท้องตลาดมีมากมายหลายชนิด อาจเรียกชื่อตามประเภทของผลไม้ชื่อผู้ผลิต หรือปริมาณของแอลกอฮอล์เป็นเกณฑ์ เช่น ไวน์แอปเปิล ไวน์มังคุด ไวน์หม่อน เป็นต้น แม้แต่ผักบางชนิดก็สามารถที่จะหมักทำเป็นไวน์ได้ ซึ่งมีรสที่แตกต่างกันไป
“ไวน์ มีแอลกอฮอล์อยู่ปกติเพียง 9 -15% เท่านั้น ไม่มากเท่าเหล้า แต่ได้รับประโยชน์ของผลไม้ได้ และวิตามินต่างๆ ที่ผลไม้ชนิดนั้นมี หากดื่มในประมาณที่จำกัด จะช่วยในการบำรุงร่างกายได้”
ประโยชน์ของไวน์
ไวน์(Wine) เครื่องดื่มยอดนิยมทั่วโลกที่มีรสชาติแตกต่างกันไปตามแหล่งผลิต ระยะเวลาการบ่ม รวมไปถึงชนิดของไวน์ ไม่ว่าจะเป็น ไวน์แดง (Red Wine) ไวน์ขาว (White Wine) ไวน์โรเซ่ (Rose Wine) เป็นต้น หลายคนสงสัยว่า ไวน์ จะมีประโยชน์ได้อย่างไร ดื่มไวน์เพื่อสุขภาพได้อย่างไร ทั้ง ๆ ที่เป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นั่นเพราะวัตถุดิบหลักอย่าง องุ่น เป็นผลไม้ที่มีสรรพคุณมากมายที่ช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรง และลดภาวะเสี่ยงจากโรคร้ายได้อีกด้วย การดื่มไวน์จึงให้ประโยชน์ได้ ดังนี้
1) ชะลอความแก่ Anti Aging
ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระในไวน์แดง ช่วยป้องกันร่างกายจากความเสียหายจากอนุมูลอิสระ และจะชะลอกระบวนการชรา ไวน์แดง มีความเข้มข้นของสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่า โพลี มากกว่าเมื่อเทียบกับน้ำองุ่น
“นักวิจัยสเปนแนะนำว่า การดื่มไวน์แดง อาจช่วยชะลอความแก่ หลังพบสารเมลาโทนินในผิวองุ่น รวมถึงอาหารอีกหลายชนิด เช่น หอมหัวใหญ่ ข้าว และเชอรี่ สามารถปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายตามอายุขัยที่เพิ่มขึ้น ซึ่งควรจะเริ่มกินตั้งแต่อายุย่างเข้า 30 ปี เพราะไวน์แดงชะลอความแก่ได้จริง แล้วยังช่วยปรับปรุงสุขภาพหัวใจ แต่ก็ควรที่จะดื่มในปริมาณที่เหมาะสมเช่นกัน”
2)ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
สารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ในไวน์ ช่วยให้หัวใจแข็งแรง สารดังกล่าวทำหน้าที่เปลี่ยนระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเลือด เลือดไม่เกาะกันเป็นก้อน ลดปัญหาการอุดตันในเส้นเลือด ทำให้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหัวใจได้ 30-40%
•การดื่มไวน์แดงในปริมาณที่พอเหมาะอย่างสม่ำเสมอทุกวัน เหมือนที่ชาวฝรั่งเศสปฏิบัติกันเป็นปกตินิสัย ทำให้ชาวฝรั่งเศสมีอัตราเสี่ยงต่อโรคหัวใจ และโรคหัวใจล้มเหลวลดลงถึง 50%
•ส่วนการดื่มไวน์ขาว นอกจากจะเป็นเครื่องดื่มที่สร้างความสดชื่นให้กับร่างกายแล้ว ยังทำให้อาหารทะเลมีรสชาติถูกปากอร่อยลิ้น ที่สำคัญมีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร และสามารถกำจัดพิษจากอาหารทะเลที่เป็นอันตรายต่อระบบย่อยอาหารได้อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง
3) ลดและป้องกันมะเร็ง
สารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง ซึ่งพบได้ในองุ่น ราสเบอร์รี ถั่วลิสง และพืชอื่นๆ มีหลักฐานว่า เรสเวราทรอลนั้น ลดอนุมูลอิสระและลดอัตราการเกิดมะเร็งในสัตว์ทดลอง รวมทั้งลดการเจริญเติบโตของมะเร็งในถาดเพาะเชื้อได้ นอกจากนั้น ยังลดสารเอ็นเอฟ แคปปา บี (NF kappa B) ซึ่งเป็นโปรตีนที่สร้างโดยระบบภูมิคุ้มกันที่ถูกกระตุ้นอีกด้วย ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ดื่มไวน์ต้านมะเร็งได้
4) ลดปริมาณคอเลสเตอรอล
ในไวน์แดง มีแทนนิน หรือความฝาด ซึ่งนอกจากจะป้องกันการเกิดโรคหัวใจแล้ว ยังช่วยลดปริมาณคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด หากมีคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดมาก ๆ อาจทำให้เกิดการไหลเวียนของเลือดผิดปกติได้
5) ช่วยในการย่อย
อาหารประเภททอด อาหารแปรรูป จะมีสาร Malonaldehydes ซึ่งสารเหล่านี้ส่งผลร้ายต่อระบบทางเดินอาหารให้แก่ร่างกาย มีการศึกษาพบว่า การดื่มไวน์แดงกับอาหารดังกล่าว ช่วยลบล้างสารเหล่านี้ได้ถึงร้อยละ 60-70 ดังนั้น ความสามารถในการช่วยการทำลายสารเหล่านี้ก็เป็นประโยชน์ในการย่อยอาหาร
6) ช่วยในลดและคลายความเครียด
ไวน์ช่วยเรื่องความเครียดได้ ไวน์เป็นยากล่อมประสาทชนิดหนึ่ง ช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย จึงช่วยลดความเครียด หรือคลายกังวล ทำให้นอนหลับพักผ่อนได้ยาวนานขึ้น
7) ป้องกันโรคความจำเสื่อม
นักวิจัยพบว่า ไวน์แดง ช่วยลดความจำเสื่อมได้ โดยสารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ในไวน์แดง มีผลในการป้องกันการเสื่อมของสมอง
“ทีมงานวิจัยได้ศึกษาคอไวน์ 7,983 คน ซึ่งดื่มไวน์เป็นประจำ วันละ 1-3 แก้ว ระหว่างปี 1990-1999 พบว่าบุคคลดังกล่าวไม่เป็นโรคอัลไซเมอร์ และโรคพาร์กินสันแต่อย่างใด”
8) สุขภาพเหงือก และฟัน
ไวน์มีคุณสมบัติต่อต้านแบคทีเรียในช่องปาก และนอกจากนี้ งานวิจัยแสดงให้เห็นว่า สารโพลีฟีน เป็นสารธรรมชาติที่พบในเมล็ดองุ่น และไวน์แดงจะมีคุณสมบัติช่วยในการต้านการอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียของเหงือก หรือเหงือกอักเสบ
9) ไวน์ช่วยป้องกันโรคหวัด
ส่วนประกอบที่มีอยู่ในไวน์ ช่วยป้องกันหวัดได้ ศูนย์โรคหวัดแห่งมหาวิทยาลัยคาร์ดีฟ เคยมีรายงานว่า คุณสมบัติของสารต้านอนุมูลอิสระ หรือสารแอนติออกซิแดนท์ อาจทำให้ไวน์แดงสามารถป้องกันหวัดได้ และยังมีผลการวิจัยอาสาสมัคร 4,000 คน เป็นเวลา 1 ปีพบว่าผู้ที่ดื่มไวน์แดงมากกว่าวันละ 2 แก้ว เป็นหวัดน้อยกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มไวน์เลยถึงร้อยละ 44
ดื่มไวน์อย่างไรให้ดีต่อสุขภาพ?
แม้ว่าการดื่มไวน์อาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ แต่การดื่มในปริมาณที่มากเกินไปก็อาจส่งผลกระทบในทางลบได้ โดยปริมาณการดื่มไวน์อย่างเหมาะสมที่แนะนำ คือ ผู้ชายควรดื่มไม่เกิน 2 แก้ว/วัน หรือประมาณ 250-300 มิลลิลิตร และผู้หญิงควรดื่มไม่เกิน 1 แก้ว/วัน หรือประมาณ 125-150 มิลลิลิตร นั่นเอง
ดื่มไวน์มากไปส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร?
การดื่มไวน์ในปริมาณมากเกินไป อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ ดังนี้
•ติดสุรา การดื่มไวน์หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชนิดอื่นๆ มากจนเกินไป อาจทำให้ไม่สามารถควบคุมตนเองและปริมาณในการดื่มได้ จนอาจเกิดอาการติดสุรา
•น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น ไวน์มีแคลอรีมากถึง 2 เท่า เมื่อเทียบกับเบียร์และน้ำอัดลม การดื่มไวน์มากเกินไป จึงอาจทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นได้
•เสี่ยงเกิดโรค การดื่มไวน์ประมาณ 2-3 แก้ว/วัน จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตับ และตับแข็ง ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ และหากดื่มไวน์ 1-3 ครั้ง/สัปดาห์ หรือดื่มในปริมาณมากเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวาน โรคซึมเศร้า และนำไปสู่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรได้
วิธีเก็บรักษาไวน์ ทำได้อย่างไรบ้าง?
การเก็บไวน์ที่ถูกวิธี ต้องคำนึงถึงปัจจัยสำคัญ 3 ประการ คือ
•อุณหภูมิ: อุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดในการเก็บไวน์ อยู่ที่ประมาณ 18-25 ̊C เพราะจะทำให้ไวน์ mature เร็วขึ้นจนกลายเป็นน้ำส้มสายชู ไม่ควรเก็บไว้ในที่ที่มีความเย็นจัด ถึงแม้ว่าจะไม่ทำให้เสีย แต่ความเย็นมากเกินไปอาจจะทำให้กลายเป็นน้ำแข็งได้
•แสง: ควรเก็บให้พ้นจากความร้อนและแสงแดด ห้องเก็บไวน์ไม่ควรมีแสงสว่างมากเกินไป จะทำให้มีผลเสียต่อรสชาติ เพราะฉะนั้นไวน์แดงจึงนิยมผลิตขวดที่มีสีเข้ม บางครั้งเป็นสีดำ และนิยมห่อขวดด้วยกระดาษ
•ความชื้น: ก็มีผลต่อการเก็บรักษาเช่นกัน ยิ่งไวน์ที่มีจุกคอร์ก เพราะถ้าความชื้นในอากาศน้อยกว่า 50% จุกคอร์กจะแห้งกรอบและหดตัว อากาศจากภายนอกเข้าไปสัมผัสจนเกิดการ Oxidation รสชาติจะเปลี่ยนไป และเสียเร็วขึ้น แต่ถ้าความชื้นเกินไป ก็จะทำให้ฉลากของไวน์ที่เก็บไว้เปื่อยยุ่ยจนเกิดความเสียหายได้ ควรเก็บไว้ในที่มืด และเงียบ เวลาเก็บควรวางในแนวนอน เพื่อป้องกันจุกคอร์กแห้ง
เป็นอย่างไรกันบ้าง ประโยชน์ของไวน์ที่เรานำมาฝากกัน การดื่มไวน์ถือเป็นวัฒนธรรม สร้างความผ่อนคลายให้กับผู้ลิ้มรสทั้งสิ้น จะเห็นได้ว่ารสชาติและคุณลักษณะของไวน์แต่ละประเภทก็แตกต่างกันไป อย่างไรก็ตามควรดื่มไวน์อย่างพอดี ปริมาณที่พอเหมาะต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดีของเรากันด้วยนะจ๊ะ


 


ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล :https://www.sgethai.com/article/