เบาหวานเป็นแล้วกินอย่างไรดี

12 มี.ค 2568 14:40:04จำนวนผู้เข้าชม : 19 ครั้ง

เบาหวานเป็นภัยเงียบหนึ่งที่คนไทยหลายคนมองข้ามเนื่องด้วยอาการแสดงให้เกิดความตระหนักนั้นมีน้อยถ้าไม่ตรวจสุขภาพประจำปีหรือตรวจร่างกายโดยละเอียดแล้วแทบจะไม่พบปัญหาทางสุขภาพนี้เลยซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นจากการมีภาวะเบาหวานนั้นหลักๆจะมาจากการเกิดปัญหาของหลอดเลือดต่างๆในร่างกายทำให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนที่รุนแรงตามมาอีกมากฉะนั้นหากพบว่าเป็นเบาหวานแล้วเราจึงควรดูแลสุขภาพไม่ให้น้ำตาลขึ้นสูงผิดปกติเพื่อเป็นการรักษาสุขภาพของหลอดเลือดและป้องกันตัวเองจากปัญหาแทรกซ้อนอันเนื่องมาจากเบาหวานต่างๆนั่นเอง


การกินอาหารเมื่อมีภาวะเบาหวาน
จะเน้นหนักที่หลักการกินอาหารให้สมดุล สุขภาพดีและรักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแนวทางมีหลายประเด็นดังนี้
1.เลือกกินตามแนวทาง “จานอาหารสุขภาพ 2-1-1” นั่นคือการกะสัดส่วนของอาหารในจานข้าวให้มีความครบถ้วนและสมดุล โดยมีปริมาณอาหารหมวดข้าว แป้ง หรือเส้น ใกล้เคียงกับปริมาณอาหารหมวดโปรตีน เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ เต้าหู้ และยังต้องมีสัดส่วนของอาหารหมวดผักต่างๆ ในจานหรือในมื้อที่กินจริงมากกว่าปริมาณของข้าวแป้งหากทำได้ หรืออย่างน้อยมีปริมาณผักใกล้เคียงกับข้าวแป้งก็ได้
2.เน้นการกินอาหารต่างหมวดหมู่ให้ครบถ้วนในแต่ละมื้อ เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่า การเน้นหลักกินแต่เพียงอาหารหมวดใดหมวดหนึ่ง จะมีผลเสียมากกว่าผลดี เช่น น้ำตาลในเลือดไม่สูงเกินไป ก็ต่ำง่ายเกินไป ควรผสมผสานแหล่งอาหารต่างๆ ให้ครบถ้วนในมื้อเดียว
3.ควบคุมปริมาณการกินผลไม้ให้พอดี ควรมีผลไม้ในทุกวัน เพราะให้ทั้งใยอาหารและวิตามิน แร่ธาตุต่างๆ แต่ผลไม้เองก็มีปริมาณของน้ำตาลและคาร์โบไฮเดรตต่างๆ โดยไม่ควรกินผลไม้เกินครั้งละขนาดเท่า 1 กำปั้นของตนเอง
4.แนวทางการเลือกแหล่งโปรตีนต่างๆจะแนะนำให้เน้นที่โปรตีนไขมันไม่สูงก่อนเช่น เนื้อไก่ ปลา กุ้ง ปูเนื้อหมู หรือวัวที่ไม่ติดมันหรือมีน้อยๆเต้าหู้ถั่วต่างๆจะเป็นการช่วยลดปัญหาแทรกซ้อนด้านสุขภาพของผู้เป็นเบาหวานได้ในระยะยาว
5.ผักต่างๆสามารถเลือกกินได้ทั้งแบบผักสดและผักปรุงสุกขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนควรเน้นที่วิธีการล้างผักให้สะอาดและเลือกกินให้หลากหลายเป็นประจำผักจะมีส่วนช่วยในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย


นอกจากนี้แนวทางการเลือกรับประทานอาหารเพื่อควบคุมน้ำตาลในเลือดนั้นอาจจำเป็นต้องวางแผนควบคู่กับการใช้ยาประจำตัวของผู้เป็นเบาหวานด้วยเพราะผู้เป็นเบาหวานจำเป็นต้องเรียนรู้เกี่ยวกับปริมาณคาร์โบไฮเดรตแหล่งอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตและการอ่านฉลากโภชนาการอย่างถูกต้องด้วยเพื่อให้การวางแผนควบคุมน้ำตาลในเลือดและการบริโภคอาหารเป็นไปอย่างปกติและมีประสิทธิภาพมากที่สุด


 


 

 


ที่มาของข้อมูล :https://eatwellconcept.com