สนใจทำการตลาดผ่านสื่อและบริการของเราติดต่อ 063-932-1441 , 02 4243434, 02 434 3434
ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล ประธานคณะทำงานสร้างความเข้มแข็งประชาชนด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (สยส.)
วิกฤตเชื้อดื้อยาในไทยมีผู้ติดเชื้อดื้อยาราว 88,000 คนต่อปี และมีผู้เสียชีวิตมากถึง 38,000 คนต่อปีสาเหตุสำคัญของปัญหามาจากการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่สมเหตุผล และการใช้ยาไม่ครบคอร์ส
ผศ.นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล ประธานคณะทำงานสร้างความเข้มแข็งประชาชนด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (สยส.) กล่าวว่า สถานการณ์เชื้อดื้อยาในประเทศไทยมีความรุนแรงและยืดเยื้อมานานนับ 10 ปีโดยมีปัจจัยสำคัญจากการใช้ยาปฏิชีวนะเกินความจำเป็นของประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ จนส่งผลกระทบรุนแรงต่อระบบสาธารณสุขและเศรษฐกิจของประเทศ โดยพบพฤติกรรมการใช้ยาที่ไม่เหมาะสมของประชาชน เช่น การวินิจฉัยโรคเองและซื้อยาปฏิชีวนะมารับประทานโดยไม่เข้าใจความจำเป็นหรือความแตกต่างของยา ซึ่งล้วนส่งผลให้ปัญหาเชื้อดื้อยารุนแรงขึ้น รวมถึงการเข้าถึงยาที่สะดวกแม้เป็นยาที่ออกฤทธิ์แรงเกินจำเป็น ทั้งในร้านขายยา ร้านชำ ตลาดนัด และช่องทางออนไลน์ ล้วนเป็นปัจจัยที่เร่งปัญหาเชื้อดื้อยาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากยาปฏิชีวนะแทบทุกชนิดในประเทศมีอัตราการดื้อยาในอัตราสูงถึงสูงมาก และบางชนิดสูงถึง 83% เช่น Amoxicillin ทำให้ยาที่มีอยู่ไม่สามารถออกฤทธิ์ได้เต็มประสิทธิภาพ โดยแนวทางการแก้ไขปัญหาที่สำคัญคือการสร้างความตระหนักรู้และให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับการใช้ยาอย่างถูกต้อง ควบคู่กับการส่งเสริมให้บุคลากรทางการแพทย์มีความตระหนักในการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างสมเหตุผลและรับผิดชอบต่อปัญหาเชื้อดื้อยา รวมทั้งดำเนินการตามแนวทางดูแลการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสม (AMS) ในสถานพยาบาลและร้านยาอย่างจริงจัง
“ผลกระทบของเชื้อดื้อยาต่อระบบสุขภาพและเศรษฐกิจมีความรุนแรงและหลากหลาย เนื่องจากอัตราการดื้อยาในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อที่เคยง่ายกลับกลายเป็นซับซ้อนและรุนแรงมากขึ้น อีกทั้งการรักษาผู้ป่วยเชื้อดื้อยาต้องใช้ยาที่มีราคาสูงกว่าปกติหลายเท่า ส่งผลให้เกิดค่าใช้จ่ายทั้งทางตรงและทางอ้อมสูงถึง 40,000 ล้านบาทต่อปี ระบบสาธารณสุขจึงต้องรับภาระหนักขึ้น ทั้งจากปัญหาเตียงไม่เพียงพอและการรักษาที่ใช้เวลานานขึ้น โดยผลกระทบที่ร้ายแรงที่สุดคือการสูญเสียชีวิตของผู้ป่วย ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อดื้อยาราว 88,000 คนต่อปี และมีผู้เสียชีวิตมากถึง 38,000 คนต่อปี”
ผศ.นพ.พิสนธิ์กล่าวต่อไปอีกว่า แม้สาเหตุของเชื้อดื้อยาจะมีหลายปัจจัย แต่ต้นเหตุสำคัญประการหนึ่งมาจากการใช้ยาปฏิชีวนะผิดวิธี จากความเข้าใจคลาดเคลื่อนหรือความเคยชินในชีวิตประจำวัน ซึ่งเราทุกคนสามารถช่วยหยุดเชื้อดื้อยาได้ เพียงหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้คือ ใช้ยาปฏิชีวนะเองโดยไม่ปรึกษาหรือขอคำแนะนำที่ถูกต้องจากแพทย์หรือเภสัชกร ใช้ยาปฏิชีวนะพร่ำเพรื่อ เช่นกินทุกครั้งที่มีอาการไม่สบาย เช่น ไข้ ไอ เจ็บคอ หรือท้องเสีย ใช้ยาไม่ตรงกับเชื้อก่อโรค คือไม่แยกแยะว่าเป็นโรคจากแบคทีเรียหรือไวรัส ใช้ยาแรงเพราะอยากหายเร็ว โดยที่ควรใช้เพียงยาที่ออกฤทธิ์แคบ ใช้ยาไม่ครบคอร์ส เพราะคิดว่าหายแล้ว หรือแบ่งยาให้คนอื่น และใช้ไม่ถูกวิธี เช่นกินยาไม่ตรงเวลา หรือลืมกินยาเป็นบางมื้อ ซึ่งทำให้ระดับยาในร่างกายต่ำกว่าที่จะฆ่าเชื้อได้ เชื้อที่ยังถูกกำจัดไม่หมดจึงมีเวลาฟื้นตัว แข็งแรงขึ้น และค่อยๆ ปรับตัวจนดื้อยาได้ในที่สุด