โรคหลงลืมชั่วคราวคืออะไร?

ปัญหาเรื่องความจำเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนคงคุ้นเคยกันดี ไม่ว่าจะเป็นปัญหาขี้ลืม ความจำสั้น หลงลืมชั่วขณะ ซึ่งอาการเหล่านี้มักจะเกิดได้บ่อยครั้ง แต่ถ้าปล่อยอาการเหล่านี้ทิ้งไว้ต่อไป โดยไม่ได้มีการฝึกหรือใช้สมองเท่าที่ควร ก็อาจทำให้เป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ในอนาคต


นอกจากปัญหาเรื่องขี้ลืมหรือความจำสั้นแล้ว ยังมีอีกโรคหนึ่งที่เป็นการหลงลืมในระยะสั้นเหมือนกัน นั่นก็คือโรคหลงลืมชั่วคราว ซึ่งวันนี้เราจะมาพูดถึงโรคหลงลืมชั่วคราวกัน โรคนี้มีความคล้ายคลึงกับอาการความจำสั้น คืออาการหลงลืมชั่วขณะ หรือลืมสิ่งที่เพิ่งทำก่อนหน้านี้เพียงชั่วคราวเท่านั้น แล้วโรคนี้มีสาเหตุ อาการ หรืออันตรายต่อสมองและการใช้ชีวิตอย่างไร บทความต่อไปนี้จะทำให้เพื่อน ๆ ได้รู้ว่าโรคหลงลืมชั่วคราว คืออะไร? กันมากขึ้น

โรคหลงลืมชั่วคราว คืออะไร?
โรคหลงลืมชั่วคราว หรือ Temporary Transient Amnesia (TTA) เป็นสภาวะที่เกิดขึ้นเมื่อมีการสูญเสียความจำชั่วคราว โดยทั่วไปแล้วสภาวะนี้มักจะเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน และยังไม่ทราบถึงสาเหตุของการเกิดโรคหลงลืมชั่วคราวที่แน่ชัด โดยผู้ป่วยจะจดจำเรื่องราวที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ได้เพียงชั่วขณะ และหลังจากนั้นความจำก็จะค่อย ๆ กลับมาเป็นปกติภายใน 24 ชั่วโมง


ผู้ป่วยมักจะมีอาการวิตกกังวล หรือเครียดขณะที่เกิดสภาวะนี้ เพราะมันทำให้เขาไม่ทราบว่าตัวเองกำลังทำอะไร และต้องการที่จะทำอะไรต่อไป เนื่องจากการหลงลืมที่เกิดขึ้นฉับพลัน หากผู้ป่วยเกิดสภาวะนี้ในขณะที่กำลังทำกิจวัตรนอกบ้าน อาจจะเป็นขณะที่กำลังขับรถ ก็อาจทำให้เกิดอันตรายต่อการใช้ชีวิตประจำวันได้ แต่อาการหลงลืมชั่วขณะนี้พบได้ไม่บ่อยนัก และพบว่าไม่เป็นอันตรายหรือกระทบต่อสุขภาพของสมองในระยะยาว


โรคหลงลืมชั่วคราวกับความจำสั้น ต่างกันยังไง?
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า โรคหลงลืมชั่วคราวเป็นการหลงลืมที่เกิดขึ้นโดยฉับพลัน และไม่มีสาเหตุของการเกิดโรค ซึ่งต่างจากความจำสั้นที่มีสาเหตุในการเกิดอย่างแน่ชัด แต่ที่เหมือนกันคือ ทั้ง 2 สภาวะเกี่ยวข้องกับการจดจำและความจำของบุคคลในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งเหมือนกันนั่นเอง


ความจำระยะสั้น (Short-Term Memory) เป็นหน่วยความจำที่เก็บข้อมูลในสมองได้อย่างจำกัดภายในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงเท่านั้น และความจำระยะสั้นจะถูกรบกวนได้ง่าย สามารถถูกลืมได้ภายในไม่กี่วินาทีหากมีสิ่งเร้าอื่น ๆ มารบกวน โดยความจำระยะสั้นนี้จะเป็นการใช้ในการทำงานเพียงชั่วคราวเท่านั้น


ดังนั้นอาการความจำสั้น (Short-Term Memory Loss) จึงเป็นการสูญเสียความสามารถในการจำข้อมูลหรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ ความจำสั้นระยะสั้นเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น ความเครียด ความผิดปกติในสมอง การไม่รับรู้ความสำคัญของข้อมูล หรือการเกิดความรุนแรงในระยะเวลาสั้น ๆ เช่น อุบัติเหตุ


โดยความจำสั้นมักเกิดขึ้นในข้อมูลที่ไม่ได้ใช้หรือทำซ้ำหลายครั้ง และข้อมูลนั้นไม่จำเป็นที่จะต้องจดจำไว้ใช้ในระยะยาว ซึ่งส่วนที่ลืมส่วนใหญ่จะเป็นข้อมูลที่ผู้คนมักใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น จำชื่อคนที่พบเจอเพิ่มเติมล่าสุด จำตำแหน่งของวัตถุบรรจุในบ้าน หรือจำรายละเอียดของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา


เนื่องจากความจำระยะสั้นนั้นเป็นการจำกัดเวลาในการเก็บข้อมูลแค่ระยะสั้น ๆ เพราะฉะนั้นหากมีปัญหาเรื่องความจำสั้นจึงไม่ได้มีผลต่อความสามารถในการจำข้อมูลในระยะยาว โดยอาการความจําสั้นขี้ลืม อาจเกิดขึ้นได้ทันทีหลังจากข้อมูลถูกใช้ไปแล้ว หรือเมื่อไม่ได้ใช้ข้อมูลนั้น ๆ ในระยะเวลาสั้น ๆ อีกครั้ง

ป้องกันอาการหลงลืมชั่วคราว ต้องทำยังไง?
เนื่องจากโรคหลงลืมชั่วคราวยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่แน่ชัดได้ การป้องกันโรคนี้จึงไม่สามารถบอกได้เช่นกันว่าต้องทำอย่างไรถึงจะสามารถป้องกันการเกิดโรคได้ 100% อย่างไรก็ตาม มีบางปัจจัยที่อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลงลืมชั่วคราวได้ เช่น
1. การรักษาสุขภาพกาย การรักษาสุขภาพอย่างดี เช่น การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การบริโภคอาหารที่เหมาะสมและมีประโยชน์ รวมทั้งการพักผ่อนให้เพียงพอ อาจช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคหลงลืมชั่วคราวได้
2. การรักษาสุขภาพสมอง เมื่อมีการรักษาสุขภาพกายแล้ว ก็ควรรักษาสุขภาพสมองด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการฝึกสมองเป็นประจำ อาจจะเป็นการเล่นเกม การอ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่กระตุ้นการทำงานของสมอง เมื่อสมองได้ใช้งานความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ทางสมองก็จะน้อยลงตามมาด้วย
3. การจัดการความเครียด การปรับเปลี่ยนและการเรียนรู้วิธีการจัดการกับความเครียดอย่างเหมาะสม อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสภาวะหลงลืมชั่วคราวได้ เพราะสาเหตุของโรคทางสมองส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นเนื่องจากสภาวะความเครียด
4. การดื่มแอลกอฮอล์ การลดปริมาณแอลกอฮอล์ที่บริโภคหรือเลิกดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมด เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง เมื่อหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลงลืมชั่วคราวได้
5. การป้องกันการใช้ยาหรือสารเคมีที่อาจเสี่ยงต่อสุขภาพสมอง การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาหรือสารเคมีที่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพสมอง โดยพิจารณาความเสี่ยงและประโยชน์ของการใช้ยาอย่างระมัดระวัง เพราะยาบางตัวก็ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้ ก่อนจะใช้ยาจึงต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
6. การเฝ้าระวังสุขภาพ การตรวจสุขภาพประจำปีเป็นสิ่งสำคัญ หากมีประวัติความเสี่ยงต่อการเกิดอาการหลงลืมชั่วขณะ หรือปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสมอง ควรรีบเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำโดยทันที


การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมที่ดีเหล่านี้อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลงลืมชั่วคราวได้ แม้ว่าโรคนี้จะยังไม่สามารถป้องกันได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากมีอาการที่น่าเป็นห่วงเกี่ยวกับความจำหรือสมอง ควรเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินการรักษาที่เหมาะสม

 


ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล :https://www.brainandlifecenter.com/temporary-transient-amnesia/