ยารักษาอาจยืดชีวิตให้รอดจากมะเร็งเต้านมระยะท้ายได้นานขึ้น

Alex TherrienHealth, BBC News

การทดลองแสดงว่าการใช้ยารุ่นบุกเบิกกับฮอร์โมนบำบัดอาจยืดเวลารอดชีวิตของผู้หญิงที่เป็นโรคมะเร็งเต้านมระยะรุนแรงได้  
          การศึกษา พบว่า ผู้หญิงที่ได้รับยา palbociclib กับฮอร์โมนบำบัดมีชีวิตอยู่นานกว่าผู้ที่ได้รับฮอร์โมนอย่างเดียวถึง 10 เดือน  วิธีนี้ยังยืดเวลาที่ผู้ป่วยจะต้องเริ่มรับเคมีบำบัดซึ่งมักเกิดผลข้างเคียงที่ทำให้ร่างกายอ่อนกำลังอีกด้วย
          ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญ กล่าวว่า ผลเบื้องต้นของการทดลองนี้น่าสนใจมาก  แต่ชี้ว่าวิธีนี้ไม่ได้ช่วยรักษาให้หาย และไม่ได้ผลกับทุกคน
          การทดลองทางคลินิกซึ่งควบคุมด้วยยาหลอกได้ทดสอบประโยชน์ของการเพิ่มยา palbociclib กับฮอร์โมนบำบัด fulvestrant ในการทดลองกับผู้หญิง 521 คน ที่เป็นโรคมะเร็งเต้านมชนิด oestrogen-receptor positive ระยะรุนแรง ซึ่งเนื้องอกไม่มียีน HER2
          โรคมะเร็งเต้านมชนิด oestrogen-receptor positive เป็นโรคมะเร็งเต้านมที่พบมากที่สุด ครอบคลุมผู้ป่วยประมาณร้อยละ 70
          การศึกษาซึ่งนำโดยคณะผู้วิจัยจาก Institute of Cancer Research ในลอนดอน และ Royal Marsden NHS Foundation Trust ได้ตรวจสอบว่ายา palbociclib มีผลอย่างไรต่อการรอดชีวิตของผู้ป่วยในภาพรวม และยาสามารถชะลอความจำเป็นที่ต้องใช้เคมีบำบัดได้หรือไม่
          การวิเคราะห์ พบว่า ในผู้หญิงที่เนื้องอกเคยตอบสนองได้ดีต่อฮอร์โมนบำบัดก่อนหน้านี้ (421 คน จาก 521 คน)  การรักษาช่วยยืดการรอดชีวิตออกไปอีก 10 เดือน เป็น 39.7 เดือนโดยเฉลี่ย เมื่อเทียบกับ 29.7 เดือน ในผู้หญิงที่ได้รับยา fulvestrant และยาเม็ดหลอก
          อย่างไรก็ตาม การรักษาไม่ได้ช่วยยืดชีวิตในผู้ป่วยที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้ตอบสนองได้ดีต่อฮอร์โมนบำบัด
          3 ปี หลังจากเข้าร่วมการศึกษา พบว่า ร้อยละ 49.6 ของผู้หญิงที่ได้รับยา palbociclib และ fulvestrant ยังมีชีวิตอยู่ เปรียบเทียบกับร้อยละ 40.8 ของผู้หญิงที่ได้รับการรักษาด้วย fulvestrant อย่างเดียว
          กลุ่มผู้หญิงที่ได้รับการรักษาด้วยยาผสมยังชะลอเวลาเริ่มการรักษาด้วยเคมีบำบัดออกไปอีก 9 เดือน

เพิ่มเวลาอันมีค่า
          Prof. Nicholas Turner ผู้นำการศึกษา บอกว่า “การพัฒนายา palbociclib เป็นหนึ่งในความก้าวหน้าที่สำคัญที่สุดในการรักษาสำหรับผู้หญิงที่เป็นโรคมะเร็งระยะท้ายใน 2 ทศวรรษที่ผ่านมา
          “ยานี้ช่วยให้ผู้หญิงได้เพิ่มเวลาที่มีค่าในการอยู่กับคนที่รักมากขึ้น และเนื่องจากเป็นยาที่เล็งเป้าหมาย จึงอ่อนกว่าเคมีบำบัด และทำให้ผู้หญิงหลายคนดำเนินชีวิตอย่างปกติได้ต่อไป”
          ยา palbociclib ได้รับความเห็นชอบให้ใช้ในอังกฤษจาก NICE ในเดือนพฤศจิกายน 2017 แต่ปัจจุบันให้ใช้เฉพาะผู้หญิงที่เป็นโรคมะเร็งเต้านมชนิด oestrogen receptor-positive ซึ่งได้รับการวินิจฉัยหลังจากโรคเริ่มแพร่กระจาย
          ผู้เขียนรายงานการศึกษาชิ้นใหม่นี้ต้องการให้ผลิตยาสำหรับผู้หญิงที่เคยได้รับการรักษาโรคมะเร็งเต้านมมาก่อนด้วยฮอร์โมนบำบัด
          “แม้วิธีรักษานี้จะให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมบางคนได้เพิ่มเวลาที่มีค่ามากขึ้น แต่ไม่ใช่การรักษาให้หาย และไม่ได้เกิดผลกับทุกคน”
          “ดังนั้น เราจำเป็นต้องเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับจุดอ่อนของโรคมะเร็งเต้านม และใช้ประโยชน์ในการพัฒนาการรักษาที่มีประสิทธิผลมากขึ้นในอนาคต
          Delyth Morgan ประธานบริหารที่ Breast Cancer Now บอกว่า ผลการศึกษาครั้งนี้ “น่าสนใจ” แต่จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มขึ้น
          Lady Morgan กล่าวว่า มีความจำเป็นที่ NICE จะต้องปฏิรูปวิธีการประเมินการรักษาด้วยยาผสม เพื่อให้ผู้ป่วยโรคมะเร็งเต้านมได้ประโยชน์จากการรักษาด้วยยา palbociclib กับ fulvestrant
          มีการเผยแพร่ผลการศึกษาครั้งนี้ใน New England Journal of Medicine และนำเสนอต่อที่ประชุม European Society of Medical Oncology congress ในมิวนิค ประเทศเยอรมนี