ผลการทดลองทางคลินิกของยา Pegargiminase ของสถาบันมะเร็ง Barts ในกรุงลอนดอน สร้างความหวังใหม่ให้กับวงการแพทย์ของโลก เมื่ออัตราการรอดชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งเยื่อหุ้มปอดลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน หลังจากใช้ยา Pegargiminase ร่วมกับเคมีบำบัด
ศาสตราจารย์ Peter Szlosarek จากศูนย์เซลล์มะเร็งและชีววิทยาระดับโมเลกุลในสถาบันมะเร็ง Barts นำทีมวิจัยทดลองทางคลินิกเกี่ยวกับประสิทธิผลของยา Pegargiminase หรืออีกชื่อหนึ่งว่า ADI-PEG20 โดย Phase 2 และ Phase 3 เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี ค.ศ.2017 กับผู้ป่วยโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอด (MPM) 249 คน ในศูนย์การแพทย์ 43 แห่ง ใน 5 ประเทศ
ทั้งนี้ โรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอด (MPM) เป็นมะเร็งรูปแบบที่หายาก พบไม่บ่อย และมักทำให้เสียชีวิตอย่างรวดเร็วหลังจากร่างกายรับสารพิษจากแร่ใยหินผ่านหลอดลมหายใจเป็นเวลานาน เซลล์มะเร็งของ MPM เป็นเซลล์ขาดสารโปรตีนที่เรียกว่า ASS1 ซึ่งช่วยให้เซลล์สามารถผลิต Arginine ที่เป็นกรดอะมิโนพื้นฐาน อันเป็นส่วนประกอบของโปรตีนส่วนใหญ่ โรคนี้ไม่มีวิธีการรักษาที่จำกัด นอกจากใช้เคมีบำบัดเป็นหลัก ทำให้อัตราการรอดชีวิตจาก MPM ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา อยู่ในระดับต่ำที่สุดในกลุ่ม solid cancer คือ อยู่ที่ประมาณ 5-10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
ผลการวิเคราะห์ข้อมูลของ ศาสตราจารย์ Szlosarek พบว่า กลุ่มที่ใช้ยา ADI-PEG20 ร่วมกับเคมีบำบัด มีอัตราการรอดชีวิตมากกว่ากลุ่มที่ใช้ placebo ร่วมกับเคมีบำบัดถึง 4 เท่า ในระยะ 36 เดือน การค้นพบประสิทธิผลของ ADI-PEG20 ต่อโรคมะเร็งเยื่อหุ้มปอด ได้รับการเผยแพร่ในนิตยสาร JAMA Oncology และได้รับการสนับสนุนจากบริษัท Polaris Pharmaceuticals ซึ่งนับเป็นความสำเร็จครั้งแรกในรอบ 20 ปี ของการคิดค้นหาหนทางรักษา MPM และ ศาสตราจารย์ Szlosarek กล่าวด้วยว่า เป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างยิ่งที่ได้เห็นการวิจัยเกี่ยวกับการรักษา MPM ด้วย ADI-PEG20 ซึ่งจะทำให้ชีวิตของผู้ป่วย MPM ดีขึ้นในอนาคต ขณะเดียวกัน มีงานวิจัยอื่น ๆ ที่กำลังประเมินประสิทธิผลของ ADI-PEG20 กับผู้ป่วยโรคมะเร็ง sarcoma โรค glioblastoma multiforme หรือเนื้องอกในสมองชนิดรุนแรง และมะเร็งชนิดอื่น ๆ
https://www.asbestos.com/news/2024/02/21/new-drug-mesothelioma-major-breakthrough/