งานวิจัยครั้งใหม่แสดงให้เห็นว่า การให้วัคซีนโรตาไวรัสป้องกันการติดเชื่อในทารกซึ่งที่ใช้กันทั่วไปเพียงแต่จะลดโอกาสที่เด็กจะเจ็บป่วยแล้ว อาจปกป้องเด็กจากการเกิดโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 ในภายหลังได้
ทารกที่ได้รับวัคซีนตามคำแนะนำครบทั้งหมดสำหรับป้องกันไวรัส "ไข้หวัดใหญ่ลงกระเพาะอาหาร" มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 ลดลงร้อยละ 33 เมื่อเทียบกับทารกที่ไม่ได้รับวัคซีน ตามผลการศึกษาที่นำโดย Mary Rogers นักวิทยาการระบาดที่ University of Michigan แอนน์อาร์เบอร์
โรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 เกี่ยวข้องกับการตายของเซลล์ที่ผลิตอินซูลินในตับอ่อน ผู้ที่ป่วยโรคนี้จะต้องได้รับการฉีดอินซูลินทุกวัน และผลกระทบในระยะยาวต่อสุขภาพอาจรุนแรงได้
การศึกษาครั้งใหม่ได้อาศัยข้อมูลการประกันสุขภาพแห่งชาติครอบคลุมเด็ก 1.5 ล้านคน ที่เกิดก่อนหรือหลังวัคซีนโรตาไวรัสจะผลิตออกมาสำหรับทารกในปี 2006
โรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 เป็น “อาการที่ไม่พบเห็นทั่วไป ดังนั้น จะต้องรวบรวมข้อมูลจำนวนมากเพื่อดูแนวโน้มทั่วทั้งประชากร” Roger อธิบายในข่าวเผยแพร่ของมหาวิทยาลัย
คณะผู้วิจัย ระบุว่า แม้เด็กที่ได้รับวัคซีนครบทั้ง 3 ครั้ง จะได้รับการป้องกันจากโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 แล้ว แต่เด็กที่ได้รับวัคซีนไม่ครบจะไม่ได้รับการปกป้อง Roger เน้นว่าการศึกษาไม่สามารถพิสูจน์ว่า วัคซีนป้องกันโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 เพียงแต่แสดงว่ามีความสัมพันธ์ต่อกันเท่านั้น
“จะต้องใช้เวลาและการวิเคราะห์มากขึ้นเพื่อยืนยันผลการค้นพบ” เธอกล่าวและว่า “แต่เราเห็นการลดลงของโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 ในเด็กเล็กหลังจากได้รับวัคซีนโรตาไวรัส”
อย่างไรก็ตาม การรับวัคซีนตามคำแนะนำให้ครบเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง U.S. Centers for Disease Control and Prevention แนะนำว่า ทารกควรเริ่มรับวัคซีนหลายขนาดภายใน 15 สัปดาห์ เป็นอย่างน้อยที่สุด และเสร็จการรับวัคซีนก่อนอายุ 8 เดือน วัคซีนโรตาไวรัสจะได้รับผ่านการหยดทางปากไม่ได้ใช้เข็มฉีดยา
การศึกษาของออสเตรเลียซึ่งเผยแพร่ต้นปี 2019 ได้พบผลลัพธ์ที่เหมือนกัน Rogers กล่าว และเธอประเมินว่า ถ้าเด็กในสหรัฐอเมริกาทุกคนได้รับการสร้างภูมิคุ้มกันโรตาไวรัสครบถ้วน อาจทำให้โรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 ลดลง 8 คนต่อเด็ก 100,000 คนต่อปี
ขณะนี้ทารก 1 ใน 4 ไม่ได้รับโรตาวัคซีนที่แนะนำครบทั้ง 3 ครั้ง คณะทำงานของ Michigan กล่าว นั่นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะการได้รับวัคซีนครบถ้วนจะลดโอกาสที่จะต้องเข้าโรงพยาบาลเนื่องจากการติดเชื้อโรตาไวรัสได้ถึงร้อยละ 94 ผู้เขียนรายงานกล่าว
Rogers เน้นว่างานวิจัยนี้ยังอยู่ในระยะเริ่มแรก
“ 5 ปีจากนี้ไป เราจะมีความรู้เพิ่มขึ้นอีกมาก” เธอบอกและว่า “เด็กกลุ่มแรกที่ได้รับโรตาวัคซีนในสหรัฐอเมริกาปัจจุบันเข้าเรียนชั้นประถมฯ แล้ว ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มักจะตรวจพบโรคเบาหวาน ชนิดที่ 1 มากที่สุด เราหวังว่าในอีกหลายปีที่จะมาถึง เราจะเห็นผู้ป่วยรายใหม่น้อยลง แต่จากการค้นพบในการศึกษาของเรา ความหวังนั้นขึ้นอยู่กับพ่อแม่จะพาลูก ๆ มารับวัคซีน”
รายงานนี้มีการเผยแพร่ในวารสาร Scientific Reports
วัคซีนไวรัสที่ใช้กับทารกอาจป้องกันเบาหวานชนิดที่1ได้
HealthDay News