ไม่พบไวรัสจากวัคซีนแพร่กระจายในโรงพยาบาลในกลุ่มทารกที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งได้รับการดูแลในแผนกผู้ป่วยหนัก
          The U.S. Advisory Committee on Immunization Practices ให้คำแนะนำว่า ควรให้วัคซีน rotavirus กับทารกคลอดก่อนกำหนด ซึ่งมีความเสี่ยงสูงต่อโรคร้ายแรง ณ ช่วงอายุที่เหมาะสม
          เนื่องจากทารกคลอดก่อนกำหนดจะต้องพักอยู่ในโรงพยาบาลเป็นเวลานาน ทารกอาจไม่มีโอกาสรับการป้องกัน ถ้าไม่ได้ให้วัคซีน rotavirus ระหว่างที่พักอยู่โรงพยาบาล  ความกังวลว่าจะมีการแพร่กระจายในโรงพยาบาลของไวรัสเชื้อเป็นได้จำกัดการใช้วัคซีน rotavirus กับทารกในโรงพยาบาล และปล่อยให้ทารกบางคนที่มีความเสี่ยงสูงไม่ได้รับการป้องกัน
          ในการศึกษาการเฝ้าระวังแบบมองไปข้างหน้า คณะผู้วิจัยได้สรรหาทารกทั้งหมดที่อายุต่ำกว่า 104 วัน ซึ่งได้รับการรักษาในแผนกผู้ป่วยหนักในสถาบันแห่งเดียวที่มีนโยบายให้วัคซีน Rotavirus Vaccine (RV5) กับทารกที่มีคุณสมบัติเหมาะสมระหว่างอยู่โรงพยาบาล  มีทารกทั้งหมด 127 คน ที่มีคุณสมบัติเหมาะสำหรับรับวัคซีนระหว่างอยู่ในโรงพยาบาล และได้รวบรวมตัวอย่างอุจจาระทุกสัปดาห์จนกระทั่งออกจากโรงพยาบาล หรือมีอายุ 245 วัน
          เมื่อออกจากโรงพยาบาล ทารกส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนอื่น ๆ สำหรับทารกตามเวลา รวมทั้งวัคซีนป้องกันโรคคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน, วัคซีนป้องกันการติดเชื้อฮีโมฟิลุส อินฟลูอินซา ชนิดบี หรือ วัคซีนฮิบ (Hemophilus influenzae Type B Vaccine or Hib vaccine) และวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบ บี (อัตราส่วนการให้วัคซีน ร้อยละ 82-86)
          ในการวิเคราะห์ตัวอย่างอุจจาระจากทารกที่ได้รับวัคซีนและทารกที่ไม่ได้รับวัคซีน  ปรากฏว่า ตรวจไม่พบสายพันธุ์ของเชื้อที่นํามาเตรียมวัคซีนในทารกที่ไม่ได้รับวัคซีน แต่พบในอุจจาระจากทารกที่ได้รับวัคซีน 9 คน ซึ่งเป็นไปตามที่คาดไว้สำหรับวัคซีนเชื้อเป็นชนิดรับประทาน
          ผลการค้นพบนี้แสดงว่า ด้วยการดูแลใกล้ชิดเพื่อควบคุมการติดเชื้อ ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายในโรงพยาบาลของไวรัสจากวัคซีนเชื้อเป็นสามารถวางใจได้ และทารกสามารถรับวัคซีน rotavirus ได้อย่างปลอดภัย แม้ว่าทารกยังไม่พร้อมที่จะออกจากโรงพยาบาลก็ตาม