รายงานการวิเคราะห์พบความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดในงานกับการเสียชีวิตในผู้ชายที่เป็นโรคทางคาร์ดิโอเมตาบอลิก แต่ไม่ปรากฏในผู้หญิง
บทบาทของความเครียดในฐานะที่เป็นปัจจัยเสี่ยงต่อโรคทางคาร์ดิโอเมตาบอลิก (cardiometabolic disease) ยังไม่มีความชัดเจน คณะผู้วิจัยได้เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของข้อมูลระดับบุคคลว่า โรคทางคาร์ดิโอเมตาบอลิกที่เป็นอยู่ (โรคหัวใจโคโรนารี โรคหลอดเลือดสมอง หรือ โรคเบาหวาน) จากผลการศึกษากลุ่มในยุโรป 7 ชิ้น กับข้อมูลที่ได้จากทะเบียนการเสียชีวิตของประเทศ เพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดจากการทำงาน (ความเครียดจากงานหรือความไม่สมดุลระหว่างความพยายามและรางวัลตอบแทนในที่ทำงาน) กับอัตราการเสียชีวิต
ในการวิเคราะห์ที่มีการปรับตัวแปรหลาย ๆ ตัว พบว่า อัตราการเสียชีวิตของผู้ชายที่เป็นโรคคาร์ดิโอเมตาบอลิกสำหรับผู้ที่มีความเครียดจากงานสูงกว่าผู้ที่ไม่ได้มีความเครียดจากงานอย่างมีนัยสำคัญ
อัตราการเสียชีวิตที่สูงมากซึ่งมีความสัมพันธ์กับความเครียดจากงานเกือบเท่ากับอัตราการเสียชีวิตที่มีความสัมพันธ์กับการสูบบุหรี่ในเวลาปัจจุบัน (เมื่อเทียบกับการสูบบุหรี่ก่อนหน้าหรือการไม่เคยสูบเลย) และสูงกว่าอัตราการเสียชีวิตที่สูงมาก ซึ่งมีความสัมพันธ์กับความดันโลหิตสูง โคเลสเตอรอลรวมสูง การไม่ออกกำลังกาย โรคอ้วน หรือการดื่มสุราอย่างหนัก
อัตราการเสียชีวิตยังคงมีความสัมพันธ์กับความเครียดจากงานในผู้ชายที่บรรลุเป้าหมายการรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด ในผู้ชายที่ไม่ได้เป็นโรคทางคาร์ดิโอเมตาบอลิก พบว่า มีนัยสำคัญเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างความไม่สมดุลของความพยายามในการทำงาน-รางวัลตอบแทน กับอัตราการเสียชีวิต
ในผู้หญิง (ไม่ว่าจะเป็นโรคทางคาร์ดิโอเมตาบอลิกหรือไม่ก็ตาม) ไม่พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างความเครียดจากการทำงานกับอัตราการเสียชีวิตมีนัยสำคัญ
ข้อมูลเหล่านี้สนับสนุนสิ่งที่เรารู้โดยสัญชาตญาณ ความเครียดในการทำงานไม่ใช่เรื่องดี สิ่งที่แตกต่างออกไปในการศึกษานี้ คือ พบว่าความสัมพันธ์นั้นมีในผู้ชายที่เป็นโรคทางคาร์ดิโอเมตาบอลิก แต่ไม่พบในผู้หญิง
แต่ทำไมความเครียดในการทำงานสำหรับคนที่เป็นโรคทางคาร์ดิโอเมตาบอลิกถึงแย่กว่าคนอื่น ผู้เขียนรายงาน กล่าวว่า ฮอร์โมนความเครียด cortisol เพิ่มการผลิตกลูโคสในตับและตอบโต้การทำงานของอินซูลิน ซึ่งเป็นเหตุผลที่เป็นไปได้ว่าทำไมความเครียดจากงานทำให้คนที่เป็นโรคทางคาร์ดิโอเมตาบอลิกย่ำแย่กว่า
เครียดงานโยงใยการเสียชีวิตเฉพาะผู้ชายที่เป็นโรคทางคาร์ดิโอเมตาบอลิก
Lancet Diabetes Endocrinol 2018 Jun 5