จากกลุ่มผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี ร้อยละ 7 บอกว่า ความกังวลเรื่องราคายาที่แพทย์สั่งทำให้ผู้ป่วยไม่เกาะติดกับการใช้ยา ซึ่งมีความสัมพันธ์กับภาวะของสุขภาพที่แย่ลง
การเกาะติดกับการใช้ยาหรือวินัยในการใช้ยาของผู้ติดเชื้อเอชไอวี (persons living with HIV: PLWH) ส่งผลต่อการปรับภาวะสุขภาพของแต่ละคนและป้องกันไม่ให้มีการแพร่เชื้อเอชไอวีต่อไป เพื่อตรวจสอบอิทธิพลของค่าใช้จ่ายในการใช้ยาต่อการไม่เกาะติดยา คณะผู้วิจัยของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (Centers for Disease Control and Prevention: CDC) แห่งสหรัฐอเมริกา จึงดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลของโครงการติดตามการใช้ยา (Medical Monitoring Project) ตั้งแต่ปี 2016 ถึง 2017 พบว่า ประมาณร้อยละ 14 ของผู้ติดเชื้อเอชไอวี 3,948 คน ใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์การประหยัดค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการใช้ยา โดยในจำนวนนี้มีครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 7) ตอบว่า เลือกการไม่เกาะติดการใช้ยาซึ่งมีความสัมพันธ์กับการประหยัดค่าใช้จ่าย (ตามนิยามการไม่เกาะติดกับการใช้ยา คือ การไม่รับประทานยา รับประทานยาน้อยลง หรือยืดเวลาในการซื้อยาตามใบสั่งยาออกไป)
การไม่เกาะติดกับการใช้ยาซึ่งสัมพันธ์กับการประหยัดค่าใช้จ่ายมีความเกี่ยวข้องกับการมีประกันภัยส่วนบุคคล ซึ่งไม่ได้รับการคุ้มครองจากการประกันสุขภาพของรัฐบาล หรือมีความต้องการแต่ไม่ได้รับยาจาก Ryan White AIDS Drug Assistance Program (โครงการของ Health Resources and Services Administration (HRSA) ซึ่งให้การช่วยเหลือบริการรักษาพยาบาลเบื้องต้นสำหรับเอชไอวี บริการช่วยเหลือที่จำเป็น และยาสำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ติดเชื้อเอชไอวีและไม่มีประกันภัยสุขภาพและได้รับบริการไม่เพียงพอ)
การศึกษานี้ได้เน้นถึงปัญหาที่ผู้ติดเชื้อเอชไอวีบางรายเผชิญอยู่และต้องตัดสินใจทางการเงินด้วยความยากลำบาก เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงของยาตามใบสั่งยา แม้อัตราการไม่เกาะติดการใช้ยาซึ่งสัมพันธ์กับค่าใช้จ่ายจะเหมือนกันในกลุ่มผู้ติดเชื้อเอชไอวีและประชากรทั่วไป แต่การไม่เกาะติดการใช้ยาของผู้ติดเชื้อมีความหมายความสำคัญต่อการสาธารณสุข นอกเหนือจากภาวะสุขภาพที่แย่ลงของแต่ละบุคคล
การค้นพบเหล่านี้เผยแพร่ออกมาได้เหมาะสมกับเวลาในการที่รัฐบาลกลางจะเริ่มเดินหน้าเพื่อหยุดการแพร่ระบาดของเอชไอวีภายในปี 2030 ถ้าต้องการให้เป้าหมายของโครงการเริ่มต้นบรรลุความสำเร็จแล้ว จะต้องลดค่าใช้จ่ายด้านยาลงมาและต้องเพิ่มการเข้าถึงยาให้มากขึ้น
