ศูนย์ความเป็นเลิศด้านมะเร็ง โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี จัดงานแถลงข่าว “ภารกิจพิชิตโรคตับ” เพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคตับ ทั้งด้านอุบัติการณ์ ความเสี่ยง การป้องกัน การคัดกรอง และการรักษา อีกทั้งเพื่อเปิดตัวโครงการนำร่อง EZ Liver Clinic (อีซี่ ลิเวอร์ คลินิก) เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ณ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านมะเร็ง โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี โดยโครงการนี้เป็นเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจพิชิตโรคตับที่ช่วยให้ประชาชนเข้าใจถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ก่อให้เกิดโรคตับ และเข้าสู่กระบวนการตรวจคัดกรองและการรักษาได้อย่างทันท่วงที
โครงการ EZ Liver Clinic มีที่มาจากการระดมความคิดของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพของประชาชนไทย ภายใต้ชื่อ โครงการ LEAP (Liver Ecosystem Advancement Program) ซึ่งประกอบด้วย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) บุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสหสาขาวิชา ได้แก่ แพทย์ทางเดินอาหารและตับ แพทย์มะเร็งวิทยา แพทย์ศัลยศาสตร์ตับ ตับอ่อนและทางเดินน้ำดี แพทย์รังสีวิทยาหลอดเลือดและรังสีร่วมรักษา รวมถึง โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) และ โรช ไทยแลนด์ โดยทุกฝ่ายต่างก็มีเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันเพื่อช่วยให้คนไทยเข้าถึงการตรวจคัดกรองและการรักษาที่มีประสิทธิภาพอย่างทันท่วงที อันจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมและโอกาสในการหายขาดจากโรคที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ความมุ่งมั่นของ LEAP ยังสอดคล้องกับสหพันธ์ตับอักเสบโลก (World Hepatitis Alliance) ที่ออกมารณรงค์เนื่องในวันตับอักเสบโลก (World Hepatitis day) ซึ่งตรงกับวันที่ 28 กรกฎาคมของทุกปี ด้วยแนวคิดที่ว่า “Hepatitis Can’t Wait”[1] เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี ทั่วทุกมุมโลก รวมถึงในประเทศไทย ไม่นิ่งนอนใจหรือรอจนอาการของโรคลุกลามไปสู่ตับแข็งและมะเร็งตับ เพราะหากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที ย่อมเพิ่มโอกาสที่จะหายขาดและมีชีวิตยืนยาวต่อไปได้
มีการประมาณการว่าประชากรไทยมากถึง 2.2 ล้านคน เป็นพาหะของโรคไวรัสตับอักเสบบี ส่วนอีก 3-8 แสนคน เป็นพาหะของโรคไวรัสตับอักเสบซี[2] ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้ผ่านการสัมผัสทางเลือด การมีเพศสัมพันธ์ และจากมารดาสู่บุตร เมื่อเชื้อไวรัสตับอักเสบเข้าสู่ร่างกายระยะหนึ่ง ร่างกายจะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นเพื่อต่อสู้กับเชื้อ และทำให้เกิดการอักเสบของตับ ดังนั้น การเจาะเลือดเพื่อตรวจหาผิวของไวรัสและระดับภูมิคุ้มกัน จึงช่วยให้แพทย์สามารถประเมินระยะของโรคที่อาจมีข้อบ่งชี้ในการเริ่มจ่ายยาต้านไวรัสตับอักเสบชนิดรับประทาน ซึ่งสามารถเบิกจ่ายได้ทุกสิทธิการรักษา นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายอาจมีพังผืดในตับหรือเกิดภาวะตับแข็งร่วมด้วย จึงควรได้รับการตรวจด้วยวิธีอัลตร้าซาวน์ ควบคู่ไปกับการตรวจเลือดเพื่อดูค่าบ่งชี้มะเร็งตับทุก 6 เดือน
ด้วยตระหนักถึงความสำคัญของการตรวจคัดกรองและการเข้าถึงการรักษาตั้งแต่ระยะต้น โครงการนำร่อง EZ Liver Clinic ณ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านมะเร็ง โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี จึงเชิญชวนประชาชนที่มีอายุมากกว่า 30 ปี ในจังหวัดจันทบุรีเพิ่มเพื่อนใน Line Official Account @ppkezliverclinic เพื่อลงทะเบียนเข้ารับการเจาะเลือด โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ชาวจันทบุรีที่อาศัยในอำเภอเมือง สามารถเข้ารับการเจาะเลือดได้ที่ อาคารศูนย์ความเป็นเลิศด้านมะเร็ง ชั้น 2 โรงพยาบาลพระปกเกล้า ทุกวันศุกร์ เวลา 8.30 - 16.00 น. ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม - 30 กันยายน 2565 (เป้าหมาย 2,000 ราย) ชาวจันทบุรีที่อาศัยในอำเภออื่นๆ เจาะเลือด ได้ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) หรือ โรงพยาบาลใกล้บ้านท่าน ตั้งแต่ 1 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป จนกว่าชุดทดสอบหมด (เป้าหมาย 10,000 ราย)
ศ.นพ.พิสิฐ ตั้งกิจวานิชย์ นายกสมาคมโรคตับแห่งประเทศไทย (Thai Association for the Study of the Liver: THASL) กล่าวว่า “สาเหตุการเกิดมะเร็งเซลล์ตับในคนไทยส่วนใหญ่มาจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี ดังนั้น ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการจัดตั้งโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน การคัดกรอง การวินิจฉัย ตลอดจนการดูแลรักษา ให้ครอบคลุมประชากรอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม จึงถือเป็นวาระสำคัญและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาระบบดูแลสุขภาพของประเทศไทย”
นพ.ธีรพงศ์ ตุนาค ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี กล่าวว่า “ที่ผ่านมา เราได้ตรวจพบผู้ป่วยมะเร็งตับรายใหม่ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีหรือซี ในจังหวัดจันทบุรีปีละประมาณ 100 คน และกว่า 75% พบในระยะลุกลาม ซึ่งไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้น ถ้าประชาชนกลุ่มเสี่ยง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีอายุมากกว่า 30 ปี มาเจาะเลือดแล้วพบว่าติดเชื้อ ก็สามารถเริ่มเข้าสู่กระบวนการรักษาได้ตั้งแต่สาเหตุของการเกิดมะเร็งตับ หรือถ้าหากพบว่าเป็นมะเร็งตับ การรักษาตั้งแต่ระยะแรกช่วยให้ผู้ป่วยมีโอกาสหายขาดได้ โครงการ EZ Liver Clinic มีเป้าหมายที่จะทำให้ขั้นตอนตรวจวินิจฉัยโรคตับอักเสบบีเรื้อรัง โรคตับแข็ง ลดระยะเวลาลงจาก 4 เดือน เหลือ 4 สัปดาห์ และโรคมะเร็งตับ ให้ลดระยะเวลาลงจาก 6 เดือน เหลือเพียง 6 สัปดาห์ เพราะหากรู้เร็ว รักษาไว ย่อมมีโอกาสหายขาดได้”
ทั้งนี้ นพ.อภิรักษ์ พิศุทธ์อาภรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดจันทบุรี ได้กล่าวขอบคุณทุกฝ่าย ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ที่ร่วมกันทำให้โครงการนี้เกิดขึ้น “นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2535 เป็นต้นมา ประเทศไทยได้เริ่มมีนโยบายฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบให้แก่ประชาชน ทำให้สถิติผู้ติดเชื้อน้อยลงมาก อย่างไรก็ดี กลุ่มที่น่ากังวลคือประชาชนที่อายุ 30 ปีขึ้นไป ซึ่งอาจเป็นกลุ่มที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบแฝงอยู่ในกระแสเลือดเพราะเป็นช่วงที่ยังไม่มีการฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบบีในเด็กแรกเกิดทุกคน เฉพาะในจังหวัดจันทบุรี มีประชาชนอายุ 30 ปีขึ้นไปที่อาจจะยังไม่เคยได้รับวัคซีน 344,038 คน และคาดว่ามีโอกาสที่จะตรวจพบผู้ติดเชื้อสูงถึงร้อยละ 15 หรือคิดเป็น 51,605 คน ดังนั้น ในระยะที่ 1 โครงการ EZ Liver Clinic ได้รับการสนับสนุนชุดตรวจ จำนวน 12,000 ชุด (จากศูนย์ความเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านโรคตับอักเสบและมะเร็งตับ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 10,000 ชุด และจาก โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) 2,000 ชุด) จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ช่วยสนับสนุนการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ให้ค้นพบผู้ป่วยที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบราว 1,800 คน เพื่อให้ผู้ป่วยโอกาสเข้าสู่เส้นทางการรักษาดังนั้นจึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ที่อายุ 30 ปีขึ้นไป เข้ารับการเจาะเลือดตรวจคัดกรอง โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่โรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) ใกล้บ้าน โดยเพิ่มเพื่อนใน Line Official Account @ppkezliverclinic เพื่อประเมินความเสี่ยง และค้นหาสถานที่ที่สามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองได้”
โครงการนำร่อง EZ Liver Clinic ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคเอกชน บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท โรช ไทยแลนด์ จำกัด เพื่อช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถตรวจคัดกรองความเสี่ยง และเฝ้าระวังโรคมะเร็งตับ ตามเป้าหมายของ LEAP ที่พยายามเพิ่มอัตราการหายขาด และโอกาสรอดชีวิตให้แก่ผู้ป่วย
นายพิเชษฐพงษ์ ศรีสุวรรณกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “โรช มีความยินดีอย่างมากที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานนี้ เพื่อเริ่มดำเนินโครงการในการคัดกรองหากลุ่มเสี่ยง โรคไวรัสตับอักเสบบี ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคมะเร็งตับ รวมถึง การตรวจคัดกรองหาผู้ป่วยมะเร็งตับในกลุ่มเสี่ยงสูงด้วย คงปฏิเสธไม่ได้ว่าการตรวจวินิจฉัยกับผู้ป่วยโรคตับเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง ยิ่งการเข้าถึงการตรวจวินิจฉัย และนวัตกรรมแห่งการตรวจได้รวดเร็วมากเท่าไร นั่นหมายถึง ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น และยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอีกด้วย”
“โรช มุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ภายใต้โครงการ LEAP เพื่อขับเคลื่อนและยกระดับเส้นทางการดูแลผู้ป่วยโรคตับและมะเร็งตับในประเทศไทย สำหรับโครงการ EZ Liver Clinic นี้ เรามีความภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ช่วยให้ผู้ป่วยซึ่งยังอาจขาดความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรค ได้มีโอกาสเข้ารับการตรวจคัดกรองและการรักษาอย่างทันท่วงที โรช หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตอุบัติการณ์ของโรคตับในประเทศไทยจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ผู้ป่วยโรคมะเร็งตับมีอัตราการรอดชีวิตที่ยาวนานขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิม” มร.ฟาริด บิดโกลิ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โรช ไทยแลนด์ เมียนมาร์ กัมพูชา และลาว กล่าวปิดท้าย
ศูนย์ความเป็นเลิศด้านมะเร็ง โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี จัดงานแถลงข่าว “ภารกิจพิชิตโรคตับ” เพื่อเสริมสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคตับ ทั้งด้านอุบัติการณ์ ความเสี่ยง การป้องกัน การคัดกรอง และการรักษา อีกทั้งเพื่อเปิดตัวโครงการนำร่อง EZ Liver Clinic (อีซี่ ลิเวอร์ คลินิก) เพื่อเพิ่มการเข้าถึงการรักษาได้อย่างรวดเร็ว ณ ศูนย์ความเป็นเลิศด้านมะเร็ง โรงพยาบาลพระปกเกล้า จังหวัดจันทบุรี โดยโครงการนี้เป็นเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจพิชิตโรคตับที่ช่วยให้ประชาชนเข้าใจถึงปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่ก่อให้เกิดโรคตับ และเข้าสู่กระบวนการตรวจคัดกรองและการรักษาได้อย่างทันท่วงที
โครงการ EZ Liver Clinic มีที่มาจากการระดมความคิดของหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพของประชาชนไทย ภายใต้ชื่อ โครงการ LEAP (Liver Ecosystem Advancement Program) ซึ่งประกอบด้วย สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) บุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสหสาขาวิชา ได้แก่ แพทย์ทางเดินอาหารและตับ แพทย์มะเร็งวิทยา แพทย์ศัลยศาสตร์ตับ ตับอ่อนและทางเดินน้ำดี แพทย์รังสีวิทยาหลอดเลือดและรังสีร่วมรักษา รวมถึง โรช ไดแอกโนสติกส์ (ประเทศไทย) และ โรช ไทยแลนด์ โดยทุกฝ่ายต่างก็มีเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกันเพื่อช่วยให้คนไทยเข้าถึงการตรวจคัดกรองและการรักษาที่มีประสิทธิภาพอย่างทันท่วงที อันจะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าเดิมและโอกาสในการหายขาดจากโรคที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ ความมุ่งมั่นของ LEAP ยังสอดคล้องกับสหพันธ์ตับอักเสบโลก (World Hepatitis Alliance) ที่ออกมารณรงค์เนื่องในวันตับอักเสบโลก (World Hepatitis day) ซึ่งตรงกับวันที่ 28 กรกฎาคมของทุกปี ด้วยแนวคิดที่ว่า “Hepatitis Can’t Wait”[1] เพื่อให้ผู้ป่วยโรคไวรัสตับอักเสบบีและซี ทั่วทุกมุมโลก รวมถึงในประเทศไทย ไม่นิ่งนอนใจหรือรอจนอาการของโรคลุกลามไปสู่ตับแข็งและมะเร็งตับ เพราะหากผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที ย่อมเพิ่มโอกาสที่จะหายขาดและมีชีวิตยืนยาวต่อไปได้
มีการประมาณการว่าประชากรไทยมากถึง 2.2 ล้านคน เป็นพาหะของโรคไวรัสตับอักเสบบี ส่วนอีก 3-8 แสนคน เป็นพาหะของโรคไวรัสตับอักเสบซี[2] ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการ แต่สามารถแพร่เชื้อไปยังผู้อื่นได้ผ่านการสัมผัสทางเลือด การมีเพศสัมพันธ์ และจากมารดาสู่บุตร เมื่อเชื้อไวรัสตับอักเสบเข้าสู่ร่างกายระยะหนึ่ง ร่างกายจะเริ่มสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นเพื่อต่อสู้กับเชื้อ และทำให้เกิดการอักเสบของตับ ดังนั้น การเจาะเลือดเพื่อตรวจหาผิวของไวรัสและระดับภูมิคุ้มกัน จึงช่วยให้แพทย์สามารถประเมินระยะของโรคที่อาจมีข้อบ่งชี้ในการเริ่มจ่ายยาต้านไวรัสตับอักเสบชนิดรับประทาน ซึ่งสามารถเบิกจ่ายได้ทุกสิทธิการรักษา นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายอาจมีพังผืดในตับหรือเกิดภาวะตับแข็งร่วมด้วย จึงควรได้รับการตรวจด้วยวิธีอัลตร้าซาวน์ ควบคู่ไปกับการตรวจเลือดเพื่อดูค่าบ่งชี้มะเร็งตับทุก 6 เดือน