นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงความร่วมมือโครงการธุรกิจสมุนไพรสำหรับสัตว์อย่างครบวงจร ระหว่างองค์การเภสัชกรรม(อภ.) กับ กลุ่มบริษัท สมาร์ท เวท(SVG) ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยง โดยนายสัตวแพทย์นันทพงษ์ พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบริษัท สมาร์ท เวท(SVG) และมีผู้บริหารองค์การเภสัชกรรม ทีมสัตวแพทย์ของกลุ่มบริษัทสมาร์ท เวท(SVG) ร่วมเป็นสักขีพยาน เพื่อผลักดันผลิตภัณฑ์สมุนไพรสำหรับสัตว์สู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ เตรียมศึกษาและดำเนินการผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงเพื่อนำร่อง
ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกับกลุ่มบริษัท สมาร์ท เวท(SVG) ประกอบด้วยบริษัทในเครือ จำนวน 5 บริษัท ได้แก่ บริษัท สมาร์ท เวท จำกัด, บริษัท เบล็นดิกซ์ แอ๊ดว้านซ์ จำกัด, บริษัท ศูนย์สมาร์ทเทค จำกัด, บริษัท เว็ท แพลนเน็ท จำกัด และบริษัท เอสวีจี อินเตอร์เนชั่นนัล จำกัด มีวัตถุประสงค์เพื่อความร่วมมือในด้านการวิจัยพัฒนา และผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพร อาทิ ขมิ้นชัน อบเชย ขิง ชาเขียว ฟ้าทะลายโจร กัญชงและกัญชา และสมุนไพรอื่นในระดับอุตสาหกรรม เพื่อนำไปใช้ในการป้องกัน รักษา ฟื้นฟู ส่งเสริม และเพิ่มคุณภาพชีวิตสุขภาพของสัตว์ รวมทั้งศึกษาความเป็นไปได้และโอกาสทางธุรกิจของผลิตภัณฑ์สมุนไพรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและชุมชนที่เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่อุปทาน สอดรับกับนโยบายของรัฐบาลในการพลิกโฉมประเทศไทยด้วยสมุนไพร โดยในช่วงแรกจะเริ่มต้นที่การจัดตั้งคณะทำงานเพื่อวางแผนงานและขั้นตอนสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงตามมาตรฐานและเกณฑ์การผลิตของหน่วยงานกำกับดูแล อาทิ อาหารเสริมสำหรับสัตว์ อาหารเปียก อาหารขบเคี้ยว และน้ำดื่ม ก่อนจะขยายสู่กลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์ที่มีความเป็นไปได้ในอนาคต
“อภ. จับมือ SVG เคาะ MOU พัฒนาธุรกิจสมุนไพรสำหรับสัตว์ จ่อชูผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงนำร่อง”
“ในด้านความร่วมมือของแต่ละฝ่าย องค์การฯ ในฐานะผู้นำนวัตกรรมพืชสมุนไพร จะทำหน้าที่สนับสนุนข้อมูลด้านวิชาการ วัตถุดิบและสารสกัด รวมถึงสนับสนุนและผลักดันให้มีการนำผลงานวิจัยหรือผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากความร่วมมือไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ ขณะที่ SVG ในฐานะองค์กรที่ดำเนินงานด้านนวัตกรรมและผลิตภัณฑ์สำหรับปศุสัตว์และสัตว์เลี้ยงมาอย่างยาวนาน จะทำหน้าที่ในการวิจัย ผลิต จัดจำหน่ายหรือเป็นตัวแทนจัดจำหน่าย ดำเนินงานด้านการตลาด ตลอดจนการขอรับรองผลิตภัณฑ์ ที่เกิดขึ้นตามบันทึกข้อตกลง โดยหากความร่วมมือในครั้งนี้เป็นไปด้วยความลุล่วงและสัมฤทธิ์ผล คาดการณ์ว่าจะเกิดการผลักดันและขับเคลื่อนธุรกิจและผลิตภัณฑ์สมุนไพรสำหรับสัตว์สู่ตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อยกระดับขีดความสามารถของธุรกิจอาหารสัตว์ผสมสมุนไพรไทยสู่สากล” ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าว