รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยืนยัน ดูแลบุคลากรที่ปฏิบัติงานโควิดตรงตามหลักเกณฑ์ให้ได้รับเงินค่าเสี่ยงภัยโควิด โดยได้รับจัดสรรมาแล้วถึงเดือนมิถุนายน 2565 ส่วนที่เป็นงบเงินกู้ไม่สามารถนำมาปรับเกลี่ยจ่ายแทนงบกลางได้ และหากเบิกจ่ายไม่หมดต้องส่งคืน สำหรับค่าเสี่ยงภัยส่วนที่ยังขาดและของเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2565 ได้กำชับนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรวจสอบ รวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วน เพื่อขออนุมัติเพิ่มเติม และสื่อสารให้บุคลากรในพื้นที่เข้าใจ
นพ.ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีบุคลากรกลุ่มลูกจ้างสายสนับสนุนการปฏิบัติงานเรียกร้องความเป็นธรรมการจ่ายค่าตอบแทนเสี่ยงภัยโควิด 19 ที่ได้รับเพียง1-2 เดือน ว่า ค่าตอบแทนเสี่ยงภัยผู้ปฏิบัติงานโควิด 19 ประกอบด้วย 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มวิชาชีพ กลุ่มเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคอื่นๆ และ 2.กลุ่มบุคลากรที่สนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่เข้าหลักเกณฑ์การเบิกจ่าย คือ มีการปฏิบัติงานที่ต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย รวมถึงมีคำสั่งมอบหมายหรือให้ไปปฏิบัติงานเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งหากเป็นผู้ที่เข้าหลักเกณฑ์ยืนยันว่าจะดูแลให้ได้รับค่าตอบแทน ทั้งนี้ งบประมาณค่าตอบแทนเสี่ยงภัยที่ได้รับจัดสรร เดือนพฤศจิกายน 2564 – มิถุนายน 2565 มาจากแหล่งงบประมาณ 2 ส่วน คือ งบเงินกู้ ซึ่งเป็นงบที่รัฐบาลต้องเสียดอกเบี้ย มีสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กำกับดูแล และมีข้อกำหนดให้เบิกจ่ายได้เฉพาะกลุ่มวิชาชีพ เจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ด้านเทคนิคอื่นๆ ต้องมีการตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ อย่างเข้มงวด และ งบกลาง สำหรับกลุ่มบุคลากรที่สนับสนุนการปฏิบัติงานด้านการแพทย์และสาธารณสุข ซึ่งได้รับเพียงบางส่วนจากยอดที่ขอรับการสนับสนุนทั้งหมด จึงต้องจัดสรรไปจังหวัดต่างๆ ลดทอนลงตามสัดส่วน โดยงบเงินกู้ไม่สามารถนำมาปรับเกลี่ยจ่ายแทนงบกลางได้ หากเบิกจ่ายไม่หมดต้องส่งคืน
สำหรับค่าเสี่ยงภัยส่วนที่ยังขาดและอีก 3 เดือน คือ กรกฎาคม - กันยายน 2565 กระทรวงสาธารณสุขอยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกกระทรวง เพื่อเสนอของบประมาณเพิ่มเติมจากรัฐบาล ได้กำชับให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเร่งรวบรวม ตรวจสอบและรับรองการปฏิบัติงานให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ รวมถึงสื่อสารทำความเข้าใจกับบุคลากรในพื้นที่อย่างต่อเนื่องด้วย