ศิริราช - สมุทรสาคร รวมพลังจัดระดมทุนโครงการก่อสร้างศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ

www.medi.co.th

ศิริราช - สมุทรสาคร รวมพลังจัดระดมทุนโครงการก่อสร้างศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ
ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในงานแถลงข่าว "ศิริราช ? สมุทรสาคร รวมพลังจัดกิจกรรมระดมทุนเพื่อผู้สูงวัย" ว่า ภายในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าสัดส่วนประชากรผู้สูงวัยในประเทศไทยจะเพิ่มเป็น 1 ใน 4 หรือ 1 ใน 3 ซึ่งจะทำให้ผู้สูงวัยใช้บริการ รพ. หรือคลินิกผู้สูงอายุด้วยโรคประจำตัวเพิ่มมากขึ้น คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลม.มหิดล ได้เตรียมการมากว่า 20 ปี ด้วยการส่งทีมแพทย์เข้ารับการศึกษาและฝึกอบรมเกี่ยวกับเวชศาสตร์ผู้สูงวัยจากสถาบันชั้นนำในต่างประเทศ เพื่อการพัฒนาและตั้งรับกระบวนการดูแล การให้บริการสุขภาพเพื่อผู้สูงวัยแบบบูรณาการ ทั้งการฟื้นฟู การป้องกัน การรักษาตามวัย พร้อมผลิตทีมแพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงวัยให้เพียงพอ ผลิตงานวิจัย และงานวิชาการที่ครบวงจรแบบสหวิชาชีพ เพื่อให้การดูแลผู้สูงวัยครบทั้ง 4 องค์ประกอบหลัก คือ ให้ความรู้เรื่องการเตรียมตัวเข้าสู่ผู้สูงวัย , เพิ่มคุณภาพชีวิตผู้สูงวัยให้ดีขึ้น, กระตุ้นสังคมให้เริ่มขยับและปรับตัวเรื่องการดูแลผู้สูงวัย และวางระบบการดูแลผู้สูงวัยในระดับนโยบาย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้ดำเนินการก่อสร้างศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติศิริราช


ทางด้านนายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวถึงศูนย์ผู้สูงอายุว่า ในนามของพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาคร รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง ผู้สูงอายุและคนไทยทั้งปวง ขอขอบคุณเป็นอย่างสูงที่ทางคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้จัดตั้งศูนย์ต้นแบบเพื่อสุขภาพผู้สูงวัยในจังหวัดสมุทรสาครเป็นแห่งแรก เพื่อขยายผลไปสู่จังหวัดอื่น ๆ ในอนาคตต่อไป ศูนย์แห่งนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นในการกระตุ้น หรือเชิญชวนคนทั้งจังหวัดสมุทรสาครร่วมเป็นแบบอย่างของจังหวัดที่มีระบบการดูแลผู้สูงอายุที่ดีต่อไป ผมขอเชิญชวนคนไทยทุกคน ทุกหน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ รวมทั้งชาวจังหวัดสมุทรสาครร่วมกันสนับสนุนและบริจาคเพื่อให้ศูนย์ผู้สูงอายุได้ดำเนินอย่างราบรื่นและต่อเนื่อง ร่วมส่งเสริมให้ผู้สูงวัยมีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยความรักเมตตาและความเข้าใจจากใจเราคนไทยทุกคน


สำหรับ "ศูนย์วิทยาการเวชศาสตร์ผู้สูงอายุระดับชาติ" คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ได้ดำเนินการก่อสร้าง ณ ถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ ตำบลนาดี อำเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก และเพื่อให้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม. มหิดล มีศูนย์กลางการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ และส่งเสริมให้บุคลากรทั่วไปมีความรู้และทักษะในการดูแลผู้สูงอายุ เป็นศูนย์ให้บริการดูแลรักษาผู้ป่วยสูงอายุตามหลักการทางเวชศาสตร์ผู้สูงอายุ รวมทั้งเป็นศูนย์ศึกษาและผลิตงานวิจัย เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในด้านการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในผู้สูงอายุ และเป็นต้นแบบในการดูแลผู้สูงอายุเพื่อนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติให้กับสถานบริการสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ


 

ความคืบหน้าการก่อสร้างระยะที่ 2 ของโครงการศูนย์ผู้สูงอายุ จะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปี 2566 ? 2568 ประกอบด้วย อาคารศูนย์วิจัยและฝึกอบรม อาคารผู้ป่วยใน 2 อาคารสถานีไฟฟ้าย่อย งานภูมิสถาปัตย์ ทางเชื่อมอาคาร (Skywalk) และอุปกรณ์ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ อาทิ เครื่อง MRI เพื่อตรวจวินิจฉัยสมองและระบบประสาท ระบบสระน้ำธาราบำบัด พร้อมเครื่องพยุงตัวแบบมีรางเลื่อน เครื่องเอกซเรย์ทั่วไประบบดิจิทัล พร้อมระบบจัดเก็บและรับ - ส่งภาพ เครื่องเอกซเรย์เต้านมระบบดิจิทัล เครื่องตรวจวิเคราะห์ระบบการขับถ่ายปัสสาวะพร้อมเตียงตรวจ เครื่องตรวจวัดความหนาแน่นกระดูก อุปกรณ์ฝึกเดินโดยรีโมทควบคุมพร้อมระบบควบคุมการล้มเพื่อการรักษาและฟื้นฟู เครื่องรักษาด้วยเลเซอร์ชนิดกำลังสูง รักษาอาการปวดของข้อและเอ็น เป็นต้น โดยอาคารผู้ป่วยใน 2 จะเน้นการออกแบบเพื่อดูแลผู้ป่วยสูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อม (dementia) ภาวะซึมสับสนเฉียบพลัน (delirium) ซึ่งเป็นการรับผู้ป่วยสูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อมเข้ารับการรักษาแบบผู้ป่วยใน (dementia ward) เป็นแห่งแรกของประเทศไทย รวมถึงศูนย์รังสีวินิจฉัยก้าวหน้า (Advanced Imaging Center) จึงเป็นอาคารที่พร้อมให้การดูแลรักษาและสร้างวิทยาการด้านสมองและระบบประสาทสำหรับผู้สูงอายุแบบองค์รวมและครบวงจรให้ทัดเทียมกับระบบการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุในระดับนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีอาคารศูนย์วิจัยและฝึกอบรม อันจะนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้และการถ่ายทอดวิทยาการแก่บุคลากรทางสุขภาพทุกระดับ รวมถึงกลุ่มดูแลผู้ป่วยสูงอายุสมองเสื่อม เช่น ญาติหรือผู้ดูแลในสถานบริบาลต่าง ๆ ซึ่งเป็นกำลังหลักสำคัญในการร่วมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี สร้างการรับรู้ ความเข้าใจ และความตระหนัก เป็นพลังขับเคลื่อนการเตรียมความพร้อมให้สังคมไทยสูงวัยแบบสมบูรณ์ต่อไป