น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบมติสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นว่าด้วยการเข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพกลุ่มแรงงานข้ามชาติ และประเด็นว่าด้วยการเข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพของกลุ่มเด็กและเยาวชนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ ตามที่คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (คสช.) เสนอ
ทั้งนี้ ครม.มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานประกันสังคม สำนักงานสภาความั่นคงแห่งชาติ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หน่วยงานท้องถิ่น รับมติสมัชาสุขภาพเฉพาะประเด็นดังกล่าวไปพิจารณา เพื่อดำเนินการตามภาระหน้าที่เกี่ยวข้องต่อไป
สำหรับมติสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นว่าด้วยการเข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพกลุ่มแรงงานข้ามชาติ เป็นแนวทางเพื่อให้แรงงานข้ามชาติได้รับความคุ้มครองสิทธิด้านสุขภาพ มีหลักประกันการเข้าถึงบริการที่เป็นธรรม โดยเรื่องนี้มีความจำเป็นต้องมีแนวทางในระดับนโยบายเนื่องจากประเทศไทยมีแรงงานข้ามชาติมากที่สุดในอาเซียน แต่ปัจจุบันยังขาดการบูรณาการประเด็นแรงงานข้ามชาติในแผนพัฒนาประเทศ มาตรการว่าด้วยแรงงานข้ามชาติยังมีลักษณะชั่วคราว และเน้นการควบคุมการเคลื่อนย้าย มากกว่าบูรณาการเข้ากับตลาดแรงงาน และระบบประกันสุขภาพ จนเกิดความลักลั่นเข้าไม่ถึงสิทธิด้านสุขภาพ
โดย คสช.เห็นว่าแนวทางที่จะสนับสนุนให้แรงงานข้ามชาติได้รับการคุ้มครองสิทธิด้านสุขภาพนั้น ต้องดำเนินการในส่วนต่างๆ ได้แก่ บูรณาการแรงงานข้ามชาติเข้าสู่การพัฒนาประเทศ พัฒนายุทธศาสตร์การบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติให้เป็นส่วนหนึ่งของแผนพัฒนาประเทศ รวมถึงการพัฒนากฎหมายสุขภาพแรงงานข้ามชาติ เพื่อคุ้มครองสิทธิด้านสุขภาพและรับรองสิทธิในหลักประกันสุขภาพและบริการสุขภาพของแรงงานข้ามชาติ ในฐานะพลเมืองทางเศรษฐกิจ และพัฒนาหลักประกันสุขภาพที่มีเสถียรภาพครอบคลุมแรงงานข้ามชาติทุกกลุ่ม โดยคำนึงถึงระยะเวลาการพำนักในประเทศ และระดับการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจและสังคม
ส่วนมติสมัชชาสุขภาพเฉพาะประเด็นว่าด้วยการเข้าถึงสิทธิด้านสุขภาพกลุ่มเด็กและเยาวชนไร้รัฐไร้สัญชาติ เป็นแนวทางดำเนินการเพื่อให้เด็กและเยาวชนไร้รัฐ ไร้สัญชาติในประเทศไทยได้รับการคุ้มครอง สิทธิด้านสุขภาพ สิทธิในบริการขั้นพื้นฐาน ที่มีคุณภาพ เท่าเทียม ทั่วถึงตามหลักสิทธิมนุษชนและอนุสัญญาระหว่างประเทศด้วยแนวทางต่างๆ ได้แก่ การพัฒนา ปรับปรุงมาตรการ หลักเกณฑ์แนวปฏิบัติการรับรองการเกิด มาตรการเชิงรุกเพื่อการจดทะเบียนครบขั้นตอนทันทีหลังเกิด เพื่อรับรองสิทธิในสัญชาติของเด็กและเยาวชนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ และการดำเนินการปรับปรุงกฎหมาย พัฒนาบริการสาธารณสุข สิทธิประโยชน์ทางการแพทย์ที่จำเป็นขั้นพื้นฐาน
ทั้งนี้ คสช. เห็นว่าการดำเนินการต่างๆ ข้างต้นควรเร่งดำเนินการไปสู่การปฏิบัติโดยเร็ว เพื่อให้กลุ่มแรงงานข้ามชาติ รวมถึงกลุ่มเด็กและเยาวชนไร้รัฐ ไร้สัญชาติ เข้าถึงหลักประกันสุขภาพ บริการขั้นพื้นฐานที่เหมาะสม มีคุณภาพ เท่าเทียม เป็นธรรม ไม่ถูกเลือกปฏิบัติ ซึ่งเป็นการสร้างความเสมอภาคด้านสุขภาพที่เป็นพื้นฐาน รวมถึงเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ปัจจุบันยังมีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง รวมถึงโรคอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงด้านสุขภาพ และด้านเศรษฐกิจของประเทศ