กระทรวงสาธารณสุข เผยความคืบหน้าการดูแลกลุ่มพนักงานกระทรวงและลูกจ้างชั่วคราว ดำเนินการในประเด็นที่อยู่ในอำนาจแล้ว ทั้งการปรับเป็นพนักงานกระทรวง การเสนอให้ได้รับค่าตอบแทนปฏิบัติงาน/เสี่ยงภัย รวมถึงดูแลช่วยเหลือเรื่องภาระหนี้สินและลดรายจ่าย
นายสรรเสริญ นามพรม ผู้อำนวยการกองบริหารทรัพยากรบุคคล สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงความคืบหน้าการดูแลกลุ่มพนักงานกระทรวงและลูกจ้างชั่วคราวกระทรวงสาธารณสุข ว่า กระทรวงสาธารณสุขและกลุ่มลูกจ้างได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาและปรับปรุงระบบการบริหารงานของพนักงานกระทรวงสาธารณสุข เพื่อหาแนวทางดำเนินการร่วมกัน โดยประเด็นที่อยู่ในอำนาจกระทรวงสาธารณสุขได้ดำเนินการแล้ว ได้แก่ 1) การยกเลิกการจ้างลูกจ้างชั่วคราว จ้างเหมาบริการ (รายเดือน/รายวัน) และปรับเป็นพนักงานกระทรวงสาธารณสุข อกพ.ได้มีมติอนุมัติกรอบอัตรากำลังใหม่แล้ว จะให้หน่วยงานทยอยลดการจ้างงานประเภทลูกจ้างชั่วคราว จ้างเหมาบริการ (รายเดือน/รายวัน) และสนับสนุนเข้าสู่ระบบการจ้างงานที่เป็นลักษณะงานที่ต้องปฏิบัติเป็นการประจำต่อไป 2) การขอรับค่าเสี่ยงภัยในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ขณะนี้กองยุทธศาสตร์และแผนงาน ได้เสนอ ปรับปรุงข้อบังคับกระทรวงสาธารณสุข ว่าด้วยการจ่ายเงินค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้กับหน่วยบริการในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (ฉ.10) ต่อกระทรวงการคลังแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณา
3) การขอรับค่าเสี่ยงภัยจากการปฏิบัติงานในสถานการณ์โควิด 19 ได้เสนอขอรับการสนับสนุนสำหรับบุคลากรทั้งสายวิชาชีพและสายสนับสนุน รวมถึงบุคลากรของหน่วยงานภายนอกสังกัดทั้งมหาวิทยาลัยและภาคเอกชน จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง จำนวนทั้งสิ้น 7,181,617,200 บาท ขณะนี้เรื่องอยู่ที่สำนักงบประมาณ และอยู่ระหว่างเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา 4) การปรับค่าทำงานนอกเวลา (OT) ขณะนี้ให้ดำเนินการตามหนังสือที่ สธ 0202.3.7/ว79 ลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2566 ที่มีการปรับปรุงการจ่ายค่าตอบแทน โดยให้ได้รับค่าตอบแทนจากเดิมอัตรา 300 บาท เป็น 330 บาท ส่วนการปรับเพิ่มจาก 330 บาท เป็น 400 บาท จะรับไว้พิจารณาต่อไป 5) การช่วยเหลือเรื่องภาระหนี้สินและลดรายจ่ายของพนักงานกระทรวงสาธารณสุข ได้หารือกับธนาคารออมสินในเบื้องต้นแล้ว อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพื่อออกมาตรการช่วยเหลือ
สำหรับพนักงานกระทรวงสาธารณสุขที่ไม่สามารถสมัครสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพได้ เนื่องจากบางส่วนราชการไม่มีเงินบำรุงเพียงพอ อยู่ระหว่างรอผู้แทนพนักงานกระทรวงสาธารณสุขสำรวจข้อมูลผู้ที่ไม่สามารถสมัครกองทุนฯ ได้ เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาต่อไป