นายกรัฐมนตรี และอาจารย์แพทย์อาวุโส ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า หลังได้รับการยืนยันจากองค์การอนามัยโลกไม่เกี่ยวข้องกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือด พร้อมฉีดให้คณะรัฐมนตรีตามความสมัครใจ สร้างความมั่
วันนี้ (16 มีนาคม 2564) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และอาจารย์แพทย์อาวุโส รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ของแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเจรจาได้วัคซีนมาใช้ในระยะเร่งด่วนสำหรับฉีดให้กับกลุ่มเสี่ยงที่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 117,300 โดส พร้อมคณะรัฐมนตรีที่สมัครใจรับการฉีดวัคซีน
นายอนุทินกล่าวว่า ในวันนี้ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำประเทศ แสดงเจตจำนงค์ที่จะรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ของบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน หลังได้รับการยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดจากองค์การอนามัยโลกและหน่วยงานกำกับคุณภาพยาของอียู โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมวัคซีนทั้งจากแอสตร้าเซนเนก้า และซิโนแวค เพื่อฉีดให้กับคณะรัฐมนตรีที่สมัครใจ และอาจารย์แพทย์อาวุโส อาทิ ศ.คลิกนิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร นพ.ยง ภู่วรวรรณ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา ศ.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา นพ.โสภณ เมฆธน ซึ่งการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ให้กับผู้นำประเทศ และคณะรัฐมนตรี เนื่องจากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง มีการเดินทางและพบปะผู้คนจำนวนมาก ป้องกันการป่วยรุนแรง ลดโอกาสรับเชื้อและแพร่เชื้อ โดยมีทีมแพทย์จากสถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค ให้บริการฉีดวัคซีนตาม 8 ขั้นตอนของระบบกระทรวงสาธารณสุข เริ่มจากการลงทะเบียนตรวจร่างกาย ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต คัดกรองความเสี่ยง รับการฉีดวัคซีน พักสังเกตอาการหลังฉีดเป็นเวลา 30 นาที มีแพทย์ประจำ และกรมการแพทย์ได้จัดรถพยาบาลพร้อมส่งต่อไปโรงพยาบาลราชวิถีในกรณีเหตุฉุกเฉิน มีการบันทึกชนิดวัคซีน ติดตามอาการหลังฉีดในวันที่ 1, 7 และ 30 การแจ้งเตือนการรับวัคซีนโควิดเข็มที่ 2 ทาง Line Official Account “หมอพร้อม”
นายอนุทินกล่าวต่อว่า เมื่อคนในประเทศได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้นเท่าไหร่ประเทศจะยิ่งมีความปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น ตามที่องค์การอนามัยโลกได้ระบุไว้ว่า “Nobody is safe until everybody is safe จะไม่มีใครปลอดภัยจนกว่าทุกคนปลอดภัย” และเป้าหมายของรัฐบาลคือทุกคนในประเทศได้รับวัคซีนอย่างครบถ้วนตามความสมัครใจ โดยตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์จนถึงวันนี้ มีผู้ได้รับวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 1 แล้วกว่า 50,000 ราย ใน 13 จังหวัด คาดว่าจะฉีดครบร้อยเปอร์เซนต์ในสัปดาห์นี้ตามเป้าหมาย และจะได้รับวัคซีนมาเพิ่มเป็นระยะ ฉีดให้ครบ 63 ล้านโดส ภายในปี 2564 รวมทั้งได้มีการเจรจาขอซื้อวัคซีนซิโนแวคอีก 5 ล้านโดส ขอเชิญชวนประชาชนกลุ่มเป้าหมายมารับการฉีดวัคซีนตามนัด สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ เพื่อให้ประเทศปลอดภัย เศรษฐกิจเดินหน้าได้ทุกคนกลับมายิ้มด้วยกันอีกครั้ง
ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโควิด 19 กล่าวว่า สำหรับแผนการกระจายวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เบื้องต้นจะเริ่มจาก 5 จังหวัดที่มีการฉีดให้กับประชาชนแล้ว คือจังหวัดสมุทรสาคร นนทบุรี ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ เพื่อนำไปฉีดให้กับผู้ที่มีอายุเกิน 60 ปีทุกกลุ่ม ทั้งประชาชน ผู้มีโรคประจำตัว บุคลากร
ทางการแพทย์ และอสม. โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะเป็นผู้พิจารณา และจะขยายไปจังหวัดอื่นๆ ต่อไป
ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีรายชื่อผู้ที่รับการรักษาในโรงพยาบาล และจากการสำรวจโดย อสม./ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข สามารถตรวจสอบรายชื่อเพื่อนัดหมายรับการฉีดจาก Line Official Account หมอพร้อม หากไม่พบรายชื่อ ในช่วงนี้ ให้แจ้งอสม. หรือสอบถามจากสถานพยาบาลใกล้บ้าน ซึ่งวัคซีนจะทยอยส่งให้โรงพยาบาลเป็นล็อตๆ ตลอดปีนี้