สธ.ไทย หารือร่วมกับ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐฯ ผลักดันนักวิจัยไทยเข้ารับทุนวิจัยสุขภาพ


รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เยี่ยมชมสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา พร้อมหารือประเด็นความร่วมมือในการขอรับการสนับสนุนทุนวิจัย โดยสถาบันฯ ยินดีให้การสนับสนุนนักวิจัยไทยในการเข้าสมัครขอรับทุนวิจัยสุขภาพด้านต่างๆ




 


         รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข นำคณะผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เยี่ยมชมสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา พร้อมหารือประเด็นความร่วมมือในการขอรับการสนับสนุนทุนวิจัย โดยสถาบันฯ ยินดีให้การสนับสนุนนักวิจัยไทยในการเข้าสมัครขอรับทุนวิจัยสุขภาพด้านต่างๆ ซึ่งปีที่ผ่านมา 5 สถาบันในไทยได้รับทุนวิจัย 3 ล้านเหรียญต่อปี


          นายแพทย์พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์พงศธร  พอกเพิ่มดี นายแพทย์ทรงคุณวุุฒิ และคณะ ได้เข้าเยี่ยมชมสถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา (National Institute of Health : NIH) ณ เมืองเบเธสดา มลรัฐแมรีแลนด์ เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา พร้อมหารือประเด็นความร่วมมือในการขอรับการสนับสนุนทุนวิจัย และกล่าวว่า สถาบันสุขภาพแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา เป็นหน่วยงานวิจัยด้านสุขภาพที่สนับสนุนทุนวิจัยให้กับนักวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศ ประกอบด้วย สถาบันวิจัยแห่งชาติด้านต่าง ๆ กว่า 27 สถาบัน เช่น สถาบันวิจัยมะเร็งแห่งชาติ (NCI) สถาบันวิจัยจีโนมมนุษย์แห่งชาติ สถาบันวิจัยโรคเอดส์และโรคทางระบบภูมิคุ้มกัน (NIAIDS) มีนักวิจัยกว่า 6,000 คน รวมทั้งมีโรงพยาบาลที่เป็นศูนย์วิจัยทางคลินิกใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ทำการวิจัยเฉพาะเรื่องมะเร็ง โรคเอดส์ โรคหายาก และการรักษาแบบใหม่ เช่น ยีนบำบัด เป็นต้น โดยในปีที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยประมาณ 3 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี มีสถาบันที่ได้รับทุนวิจัย จำนวน 5 หน่วยงาน ได้แก่ สถาบันพระบรมราชชนก จ.ขอนแก่น มหาวิทยาลัยมหิดล จ.เชียงใหม่ จ.สงขลา และ จ.ขอนแก่น รวมทั้งยังมีนักวิจัยของประเทศไทยศึกษาและปฏิบัติงานอยู่ในสถาบันฯ แห่งนี้ 9 คนด้วย


          นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงความร่วมมือของทั้งสองประเทศ และแลกเปลี่ยนการดำเนินงาน ซึ่งคณะฯ ได้รับทราบถึงขั้นตอนการให้ทุนวิจัยและกระบวนการให้คำปรึกษาผ่านระบบ Matchmaker โดยสถาบันฯ ยินดีให้การสนับสนุนการจัดสัมมนาออนไลน์แก่นักวิจัยไทย เพื่อเพิ่มโอกาสเข้าสมัครขอรับทุนวิจัยสุขภาพด้านต่างๆ