กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการฝึกซ้อมแผนการจัดการภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขทางทะเล บูรณาการการทำงานระหว่างหน่วยงานให้มีความพร้อมรองรับสาธารณภัยอย่างเป็นระบบ สร้างเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินหน่วยงานต่างๆ ให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ

นายแพทย์ณรงค์ อภิกุลวณิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดการประชุมเชิงปฏิบัติการฝึกซ้อมแผนการจัดการภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อการพัฒนาศักยภาพการส่งกลับสายการแพทย์ด้านสาธารณสุขทางทะเล (จังหวัดในพื้นที่ฝั่งอ่าวไทยตอนล่าง) การฝึกในส่วนที่บังคับการ (Command Post Exercise : CPX) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ได้แก่ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ผ่านระบบการประชุมทั้งแบบออนไซต์และออนไลน์

นายแพทย์ณรงค์ กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญการจัดการภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ปัจจุบัน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดผลกระทบต่อพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย ซึ่งการช่วยเหลือผู้ป่วยหรือผู้ได้รับบาดเจ็บต้องร่วมมือกันหลายหน่วยงาน เพื่อให้ได้รับการดูแลรักษาที่รวดเร็วและไร้รอยต่อ ทั้งนี้ จังหวัดในฝั่งอ่าวไทยตอนล่างส่วนใหญ่มีพื้นที่ติดทะเล และพื้นที่พิเศษที่เป็นเกาะจำนวนมาก การจัดบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีฉุกเฉินจึงมีบริบทแตกต่างจากพื้นที่ปกติ จึงต้องมีการฝึกซ้อมแผนการจัดการภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุขโดยเฉพาะ รวมทั้งการฝึกส่วนบังคับการ เพื่อให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือในการปฏิบัติ การสื่อสาร และการบริหารจัดการที่เชื่อมโยงร่วมกัน ครอบคลุมทั้ง 3 ระยะ คือ 1) ระยะการเตรียมการ 2) ระยะเผชิญเหตุและ 3) ระยะการฟื้นฟูภายหลังการเกิดสาธารณภัย

โดยการฝึกซ้อมแผนฯ ครั้งนี้ เป็นการจำลองสถานการณ์และฝึกซ้อมเสมือนเหตุการณ์จริง และการฝึกทดสอบกระบวนการวางแผนและการตัดสินใจตามกระบวนการวางแผนทางการแพทย์ ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุข ทำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกระดับ มีความรู้ความเข้าใจในการประสานงาน และการให้ความช่วยเหลือการส่งกลับทางการแพทย์ด้านสาธารณสุขทางทะเลอย่างเป็นระบบ รวมถึงเป็นการสร้างเครือข่ายและการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินระหว่างหน่วยงานต่างๆ ให้สามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ