อย. พร้อมอำนวยความสะดวกการนำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องช่วยหายใจ

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

อย. เปิดช่องทางพิเศษอำนวยความสะดวก สำหรับผู้ประกอบการที่นำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องช่วยหายใจ หากเอกสารครบ พิจารณาตรวจสอบพร้อมปล่อยของให้ทันที โดยประสานกับเจ้าหน้าที่ด่านอาหารและยาที่มีการนำเข้า

          นายแพทย์วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศระลอกใหม่ พบยอดผู้ป่วยที่ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องช่วยหายใจโดยเฉพาะเครื่อง High Flow Nasal Cannula Oxygen เพิ่มมากขึ้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอชี้แจงว่า ผู้ประกอบการรายใดที่ต้องการนำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องช่วยหายใจ กรณีนำเข้ามาเพื่อใช้ในหน่วยงานของรัฐในหน้าที่ป้องกัน ชันสูตร บำบัดโรค หรือฟื้นฟูสมรรถภาพและสภากาชาดไทย รวมทั้งการนำเข้ามาบริจาคให้หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรการกุศล ขอให้ผู้นำเข้ายื่นขอนำเข้าพร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง โดยสามารถยื่นได้ที่ด่านอาหารและยาที่นำเข้า ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ด่านอาหารและยาพิจารณาตรวจสอบทันที กรณีนำเข้ามาเพื่อขาย หากมีใบจดทะเบียนสถานประกอบการนำเข้าเครื่องมือแพทย์ สามารถนำมายื่นขอนำเข้าพร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องได้ที่ อย. โดยจะมีเจ้าหน้าที่ดำเนินการแล้วเสร็จใช้เวลาพิจารณา 3 วันทำการ หากไม่มีใบจดทะเบียนสถานประกอบการนำเข้าจะใช้เวลาในการยื่นขออนุญาตสถานที่ และขอนำเข้าผลิตภัณฑ์ รวมไม่เกิน 4 วันทำการ
          ทั้งนี้ อย. ได้มีการอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการสามารถมายื่นเอกสาร ณ ด่านอาหารและยา ที่นำเข้า โดยผ่านช่องทาง Fast Track สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มโควิด-19 กรณีมีผู้นำเข้าสินค้าจะประสานด่านศุลกากรให้แจ้งด่านอาหารและยา และมีการติดต่อผ่านระบบ Line official ระหว่างเจ้าหน้าที่กับตัวแทนออกของเพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้า
          รองเลขาธิการฯ กล่าวในตอนท้ายว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา มุ่งเน้นให้บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนได้รับผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ที่มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับการใช้งาน พร้อมอำนวยความสะดวกในทุกขั้นตอนให้แก่ผู้ประกอบการที่ต้องการนำเข้าผลิตภัณฑ์เครื่องช่วยหายใจได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ สามารถติดตามข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ได้ที่เว็บไซต์ อย. www.fda.moph.go.th หัวข้อ “COVID-19” แล้วคลิกไปที่ “ข่าวประชาสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้อง” หรือกดติดตามที่ “แฟนเพจเฟซบุ๊ก FDAThai หรือ ไลน์ FDAThai”