อย. ร่วมประชุมหารือกับคณะส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับเคนยา แลกเปลี่ยนความต้องการผลิตภัณฑ์สุขภาพ และกฎระเบียบที่จำเป็นสำหรับการนำเข้า โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์สมุนไพร ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาความร่วมมือและส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์สุขภาพของไทย

เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหาร
และยา และคณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมให้การต้อนรับ คณะส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับเคนยา นำโดย Mr. Abubakar Hassan Abubakar, Principal Secretary, State Department for Investment Promotion กระทรวงการค้า การลงทุน และอุตสาหกรรม (Ministry of Trade, Investment, and Industry) และผู้แทนจากหน่วยงานด้านมาตรฐานของประเทศเคนยา (Kenya Bureau of Standards) รวมทั้งผู้แทนจากหน่วยงานด้านการค้าการลงทุนและเศรษฐกิจพิเศษของประเทศเคนยา ซึ่งประกอบด้วย Kenya Investment Authority, Special Economic Zones Authority, Export Processing Zones Authority และสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาของประเทศเคนยา (Kenya Development Corporation) เพื่อหารือความร่วมมือและการส่งเสริมการส่งออกผลิตภัณฑ์สุขภาพ ในช่วงของการเดินทางมาเยือนไทย ระหว่างวันที่ 26 – 30 มิถุนายน 2566 ภายใต้โครงการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างไทยและแอฟริกาตะวันออก

เภสัชกรเลิศชาย เลิศวุฒิ รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวถึงความสัมพันธ์ที่มีอย่างยาวนานระหว่างไทยและเคนยา ในช่วงพิธีเปิดของการประชุมเน้นย้ำถึงความร่วมมือในด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยประเทศเคนยา ถือเป็นประเทศคู่ค้าในแอฟริกาตะวันออกและเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าในทวีปแอฟริกาที่สำคัญของไทย ซึ่งการประชุมหารือร่วมกันในครั้งจึงเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองประเทศได้แลกเปลี่ยนความต้องการผลิตภัณฑ์สุขภาพ และกฎระเบียบที่จำเป็นสำหรับการนำเข้า รวมถึงความร่วมมือที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ในระหว่างการประชุม ผู้แทนจากหน่วยงานของประเทศเคนยาได้นำเสนอข้อมูลแนวโน้มความต้องการผลิตภัณฑ์สุขภาพ และกฎระเบียบการนำเข้าที่จำเป็นสำหรับผลิตภัณฑ์ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพไปยังประเทศเคนยา โดยทั้งสองฝ่ายได้หารือความร่วมมือระหว่างกัน และตกลงที่จะแลกเปลี่ยนกฎระเบียบด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ยา เครื่องสำอาง รวมทั้งผลิตภัณฑ์สมุนไพรของประเทศเคนยา เข้ามามีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนข้อมูลดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ ยังเสนอให้ฝ่ายเคนยาแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการผลิตภัณฑ์สุขภาพ โดยเน้นผลิตภัณฑ์ยา เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เพื่อเป็นแนวทางสำหรับการพัฒนาความร่วมมือด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพร่วมกันต่อไป เพื่อให้คนไทยสามารถใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพที่นำเข้าจากต่างประเทศได้อย่างปลอดภัย