ศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ม.มหิดล เป็นประธานเปิดงานแถลงข่าว “ศิริราชสร้าง Health Ambassador สร้างสื่อกลางเพื่อคนไทยสุขภาพดี”ที่จะเสริมประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลให้ราบรื่นขึ้น รวมถึงการสื่อสารกับผู้ป่วยสูงอายุให้เกิดความร่วมมือจนบรรลุเป้าการรักษา โดยได้รับเกียรติจาก ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์
วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการ รพ.ศิริราช และคุณพจนารถ ซีบังเกิด ผู้บริหารบริษัท จิมมี่เดอะโค้ช จำกัด (Jimi The Coach Company Limited) ให้เกียรติร่วมงาน ณ ห้องประชุมสิรินธร อาคารเฉลิมพระเกียรติ ชั้น G รพ.ศิริราช
ศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลม.มหิดลกล่าวว่าปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยโดยสมบูรณ์ เนื่องจากจำนวนผู้สูงอายุที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล จึงขับเคลื่อนยุทธศาสตร์การดูแลผู้สูงอายุให้ทั่วถึงโดยเฉพาะกรณีของผู้สูงอายุที่รักษาตัวที่บ้านนั้น หากขาดการดูแลที่ดี จะนำไปสู่ปัญหาด้านการรักษาซึ่งอาจจะต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าเดิม ผู้ป่วยและ Caregiver จึงจำเป็นต้องมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรค ฝึกปฏิบัติตามคำแนะนำของบุคลากร เพื่อเพิ่มพูนทักษะทางสภาพร่างกายและจิตใจให้เหมาะสม สิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ถ้าบุคลากรทางการแพทย์สื่อสารด้วยทักษะเฉพาะ สื่อสารตรงจุด แสดงถึงความเข้าใจของความคิดและพฤติกรรมของมนุษย์ นำไปสู่การโน้มน้าวจิตใจของผู้ป่วยให้เกิดแรงบันดาลใจในเชิงบวก ผลักดันให้ผู้ป่วย ครอบครัวและผู้ดูแลร่วมมือเปลี่ยนแปลงเชิงพฤติกรรมด้วยตนเอง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของการรักษาโรค ดังนั้น การเพิ่มทักษะการสื่อสารให้กับบุคลากรทางการแพทย์จึงเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลต้องเร่งพัฒนาเพื่อยืนหนึ่งสู่สถาบันการแพทย์ระดับโลก มาตรฐานระดับสากล
ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการ รพ.ศิริราช กล่าวว่าหนึ่งแนวคิดที่ศิริราชให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องคือการยกระดับการสื่อสารจากบุคลากรสู่ผู้ป่วย จึงเกิดเป็น “โครงการ Health Ambassador สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล” ขึ้น เพื่อให้ทุกคำแนะนำมีประสิทธิภาพแก่ผู้ป่วยมากที่สุด
รพ.ศิริราช จึงร่วมมือกับทางบริษัท จิมมี่เดอะโค้ช จำกัด ซึ่งเป็นองค์กรในกลุ่มของ Thailand Coaching Academy ที่มีหลักสูตรการโค้ชที่ได้รับการรับรองระดับสูงสุดจาก International Coaching Federation ออกแบบหลักสูตรในโครงการดังกล่าวขึ้น สำหรับแพทย์ พยาบาล เภสัชกร รวมถึงสหสาขาวิชาต่าง ๆ เช่น นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ นักกำหนดอาหาร ฯลฯ เพื่อสร้างผู้นำทัศนคติเชิงบวก เป็น Health Ambassador ด้วยหลักสูตรการฝึกอบรมกว่า 40 ชั่วโมงหรือ 5 วัน ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจน นั่นคือ การที่บุคลากรเข้าใจหลักการและทักษะเบื้องต้นของการโค้ชที่ได้มาตรฐานในระดับสากล แค่เพียงเลือกใช้คำพูดที่สื่อออกไปแก่ผู้ป่วย ปรับเปลี่ยนทัศนคติ กรอบความคิด ทำความเข้าใจความแตกต่างของแต่ละบุคคลเท่านั้น บุคลากรก็จะสามารถรักษาและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ป่วยในการให้ความร่วมมือต่อการรักษา อีกทั้งการฟังผู้อื่นในระดับลึกจนสามารถบรรลุเป้าหมายตามที่คาดหวังได้ นอกจากนี้ผู้ป่วยและผู้เกี่ยวข้องยังสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างสมดุล มีสุขภาวะที่ดีกายและจิตที่ดีอีกด้วย
คุณพจนารถ ซีบังเกิด ผู้บริหารบริษัท จิมมี่เดอะโค้ช จำกัด กล่าวถึง หลักสูตร Health Ambassador ของจิมมี่เดอะโค้ช ที่ออกแบบโดยเฉพาะ เพื่อเสริมศักยภาพให้บุคลากรทางการแพทย์ทุกภาคส่วนที่เข้าร่วมโครงการได้มีทักษะเพิ่มเติมในการเข้าใจผู้ป่วย ผ่านการฟังให้ได้ยินในสิ่งที่ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วยทั้งพูดและไม่ได้พูดในระยะเวลาอันสั้น โดยทักษะนี้จะทำให้เข้าใจถึงแรงผลักดันจากภายในที่ส่งผลถึงพฤติกรรมภายนอก โดยหลักสูตรทั้งหมดที่ส่งมอบแก่ศิริราชครั้งนี้เป็นทักษะในการใช้ชีวิต และทักษะการโค้ชที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ซึ่งสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริงและยั่งยืน
“สำหรับการเรียนการสอนตลอดหลักสูตร ประกอบด้วย การเข้าใจแรงผลักดันของพฤติกรรมมนุษย์ ผ่านการฟัง การถาม สร้างความไว้วางใจให้เกิดขึ้น การแสดงความเข้าอกเข้าใจ และเทคนิคการโค้ชเพื่อเปลี่ยนแปลงจากภายในด้วยการตัดสินใจของผู้ป่วยเอง นอกจากนี้ ผู้เข้าร่วมโครงการจะได้สัมผัสประสบการณ์การเข้าใจตนเอง และวิธีการสร้างการเปลี่ยนแปลงด้วยตนเอง ในแบบ Active & Action Learning ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการนำไปใช้งานจริง ถ่ายทอด และส่งต่อให้ผู้ป่วย ญาติผู้ป่วย รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดด้วยศรัทธาและ Passion”
นอกจากนี้ คณะผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ร่วมกับ คณะผู้บริหารจากบริษัท จิมมี่เดอะโค้ช จำกัด ลงนามความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งการขับเคลื่อนครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบระเบิดจากภายในครั้งสำคัญและยิ่งใหญ่ของวงการแพทย์ และจะสร้างผลกระทบในทางบวกสู่สังคมของประเทศชาติได้จริงโดยเริ่มต้นจากจุดเล็กๆ ด้วยหัวใจที่ยิ่งใหญ่ของชาวศิริราช ทั้งนี้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลพร้อมที่จะพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพให้ทัดเทียมมาตรฐานระดับสากล เพื่อให้ทุกการรักษานำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีกับผู้ป่วยทุกเศรษฐานะ