​นายแพทย์วีรวุฒิ อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบมาก เป็นอันดับ 4 ของผู้หญิงทั่วโลก ในปี 2563 พบผู้ป่วยรายใหม่เฉลี่ย 604,000 ราย เสียชีวิตราว 342,000 ราย โดยร้อยละ 90 ของผู้ป่วยที่เสียชีวิต อยู่ในกลุ่มประเทศรายได้ต่ำถึงปานกลาง ทั้งนี้ มะเร็งปากมดลูกถือเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2532 ซึ่งพบอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งปากมดลูกสูงเป็นอันดับหนึ่ง ในผู้หญิงไทย

แพทย์หญิงนิธิมา ศรีเกตุ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมะเร็งสุราษฎร์ธานี กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากปัญหาในการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในอดีต พบว่าสตรีไทยบางส่วนยังเข้าไม่ถึงบริการ และไม่สะดวก ในการเข้ารับบริการตรวจคัดกรองที่หน่วยบริการ รวมถึงมีพฤติกรรมเขินอายที่จะเข้ารับบริการ เนื่องจากต้องให้แพทย์ ตรวจให้ ต้องขึ้นขาหยั่ง แต่ในปัจจุบันมีการพัฒนาการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ในรูปแบบ HPV DNA Test ซึ่งมีทั้งแบบให้แพทย์เก็บตัวอย่างให้ และ HPV DNA Self-Sampling แบบเก็บตัวอย่างด้วยตนเอง เพื่อเพิ่มทางเลือก ให้สตรีไทยที่ยังไม่เคยเข้ารับการตรวจ สามารถเข้าถึงการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกได้ง่ายขึ้น

โรงพยาบาลมะเร็งสุราษฎร์ธานี กรมการแพทย์ จึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้และออกหน่วย ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ด้วยวิธี HPV DNA Self-Sampling ตามโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ทำความ ดี เพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ โดยกำหนดแผนการดำเนินกิจกรรมในพื้นที่เขตสุขภาพที่ 11 (พฤศจิกายน 2566 - มกราคม 2567) ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (เรือนจำกลางสุราษฎร์ธานี) จังหวัดชุมพร (เรือนจำอำเภอหลังสวน) จังหวัดพังงา (อำเภอตะกั่วทุ่ง อำเภอทับปุด อำเภอเมือง โรงพยาบาลกะปงชัยพัฒน์ โรงพยาบาลคุระบุรีชัยพัฒน์ โรงพยาบาลท้ายเหมืองชัยพัฒน์ โรงพยาบาลเกาะยาวชัยพัฒน์ โรงพยาบาลบางไทรตะกั่วป่า โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลพรุใน เรือนจำตะกั่วป่า และเรือนจำกลางจังหวัดพังงา) รวมทั้งสิ้น 3,904 ราย พบความเสี่ยงจำนวน 289 ราย ซึ่งจะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดต่อไป

มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่พบมาก 1 ใน 5 ของมะเร็งที่พบบ่อยในหญิงไทย ซึ่งสามารถป้องกันได้ด้วยการ ฉีดวัคซีนเอชพีวี และนอกจากการฉีดวัคซีนแล้ว การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของการป้องกันมะเร็งปากมดลูก จึงรณรงค์ให้หญิงไทยที่มีอายุตั้งแต่ 30 - 60 ปีบริบูรณ์ เข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกฟรี ทุก 5 ปี ซึ่งช่วยให้ตรวจเจอตั้งแต่ระยะเริ่มแรก เพิ่มโอกาสในการรักษาหายขาดได้ เพื่อให้สตรีไทยมีสุขภาพดี ปลอดจากมะเร็งปากมดลูก เพิ่มความเข้มแข็งด้านการดูแลสุขภาพ “รู้เท่าทัน ป้องกันได้ ตรวจพบรักษาไว ปลอดภัยจากมะเร็ง”