ปลัด สธ. มอบนโยบายแพทย์-ทันตแพทย์บรรจุใหม่ แนะแนวทางการทำงาน ย้ำผู้บริหารดูแล 5 เรื่อง

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข มอบนโยบายแพทย์และทันตแพทย์ที่บรรจุเป็นข้าราชการใหม่ แนะแนวทางการดำเนินงาน สั่งสมประสบการณ์ เป็นข้าราชการที่ดีและเป็นกำลังพัฒนาประเทศ พร้อมย้ำผู้บริหาร ทั้งนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ผู้อำนวยการโรงพยาบาล ดูแลความเป็นอยู่และการปฏิบัติงาน 5 เรื่อง


นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงการมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติราชการแก่แพทย์และทันตแพทย์ที่บรรจุเป็นข้าราชการใหม่ เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคมที่ผ่านมา ว่า ได้ให้หลักคิดในการตั้งเป้าหมายและสั่งสมประสบการณ์ในชีวิตราชการ ซึ่งจะมีระยะเวลาประมาณ 30 ปีก่อนที่จะเกษียณ โดยแบ่งเป็น 3 ช่วง ได้แก่ ช่วง 10 ปีแรก ให้เรียนรู้ ฝึกฝน สร้างทักษะทางวิชาชีพ เพื่อพัฒนาไปสู่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ทั้งในระดับประเทศ ระดับนานาชาติ และระดับโลก ช่วง 10 ปีที่สอง เรียนรู้ระบบการบริหารจัดการ ภายใต้การให้คำแนะนำ ปรึกษาจากผู้ที่มีประสบการณ์ภายในหน่วยงาน เพื่อนำมาพัฒนาตนเองให้มีความก้าวหน้าในวิชาชีพ และเติบโตไปสู่ระดับผู้บริหารในอนาคต และนช่วง 10 ปีสุดท้าย เป็นการบูรณาการทักษะต่างๆ นอกเหนือจากด้านสาธารณสุข ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้ตอบโจทย์นโยบายสำคัญของประเทศ ทั้งนี้ ต้องให้ความสำคัญกับการมีวินัยของข้าราชการ ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินงานร่วมกันของคนในองค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ


นพ.โอภาสกล่าวต่อว่า สำหรับผู้บริหาร โดยเฉพาะนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดและผู้อำนวยการโรงพยาบาล ได้ย้ำถึงความสำคัญในการดูแลข้าราชการใหม่ ทั้งสายงานแพทย์ ทันตแพทย์ และสหวิชาชีพอื่นๆ ให้มีความเป็นอยู่และประสบการณ์การทำงานที่ดี เพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีคุณภาพ โดยคำนึงถึงความต้องการของข้าราชการใหม่ 5 เรื่อง คือ
1.ค่าตอบแทน แม้สายงานแพทย์และทันตแพทย์ ถือว่าได้รับเงินเดือนและค่าตอบแทนในอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับวิชาชีพอื่นๆ แต่หากเทียบกับภาคเอกชนยังแตกต่างกัน ซึ่งสิ่งสำคัญที่ได้จากภาคราชการคือ ความเชิดชูเกียรติแก่วงศ์ตระกูล
2.ภาระงาน ซึ่งการคำนึงถึงประโยชน์ของราชการและประชาชนเป็นสำคัญ อาจส่งผลให้ภาระงานของแพทย์ค่อนข้างสูง ดังนั้น ขอให้ดูแลและให้ความสำคัญกับชั่วโมงการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะนอกเวลาราชการที่ปัจจุบันยังมีค่าเฉลี่ยเกินกว่า 40 ชั่วโมง/สัปดาห์ ต้องผลักดันให้ลดลง เพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างคุณภาพชีวิตและการทำงาน ส่วนการปฏิบัติงานในห้องฉุกเฉิน ให้จัดแพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้คำปรึกษากับแพทย์จบใหม่ และระมัดระวังการดูแลผู้ป่วยเด็กและหญิงตั้งครรภ์ รวมทั้งห้ามปฏิเสธการรับส่งต่อผู้ป่วย
3.ความก้าวหน้าในวิชาชีพ สายงานแพทย์/ทันตแพทย์ แม้จะมีเส้นทางความก้าวหน้าในวิชาชีพถึงระดับเชี่ยวชาญ แต่ก็มีการทำงานร่วมกันกับบุคลากรหลากหลายวิชาชีพ ควรให้เกียรติและเคารพวิชาชีพอื่นๆ
4.การศึกษาต่อ เมื่อปฏิบัติงานชดใช้ทุนครบ 3 ปี สายงานแพทย์สามารถลาศึกษาต่อแพทย์ประจำบ้านในสาขาต่างๆ รวมถึงการศึกษาต่อยอดได้หลากหลาย ส่วนทันตแพทย์ ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายยกระดับบริการด้านทันตกรรม โดยจะให้มีโรงพยาบาลทันตกรรมในทุกจังหวัด ซึ่งจะทำให้ทันตแพทย์ได้ศึกษาต่อยอดและให้บริการด้านทันตกรรมที่หลากหลาย และ
5.การสั่งสมประสบการณ์ โดยจัดให้แพทย์จบใหม่ได้รับการเพิ่มพูนทักษะควบคู่ไปกับการดูแลผู้ป่วย


23 พฤษภาคม 2567