โรคฮิตในหน้าฝน ที่เด็กเล็กต้องเฝ้าระวัง

ในช่วงนี้ ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน สภาพอากาศที่เย็นและความชื้นที่สูงขึ้น ทำให้เชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคระบบทางเดินหายใจเจริญเติบโตและแพร่กระจายในอากาศได้ดี และอีกทั้งยังเป็นช่วงที่เด็กๆ เปิดเทอม หากไม่มีการป้องกันโรคที่ดี อาจส่งผลทำให้เด็กเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจได้ง่ายขึ้น


อาจารย์ ดร.ชนิตา ตัณฑเจริญรัตน์ ภาควิชาการพยาบาลกุมารเวชศาสตร์ คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงข้อมูลจากการเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค พ.ศ. 2566 ที่พบว่าในช่วงปี พ.ศ. 2561-2566 มีเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี เจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจสูงขึ้น โดยโรคที่พบบ่อย คือ “โรคปอดอักเสบ และโรคไข้หวัดใหญ่”


โรคปอดอักเสบ หรือโรคปอดบวม เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อปอด หลอดลมและถุงลม ส่งผลให้การทำงานของระบบทางเดินหายใจลดลง อาการของโรคปอดอักเสบในเด็ก ได้แก่ มีไข้ ไอ หอบ หายใจเร็ว หรือหายใจลำบากขึ้น ซึ่งสิ่งที่ต้องระวังคือ ในเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี หากมีไข้สูงอาจเกิดอาการชักได้ และหากเคยชักแล้วอาจมีโอกาสชักซ้ำได้อีก


สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ เกิดจากติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ (Influenza virus) อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ในเด็ก อาการทั่วไปคล้ายไข้หวัด แต่จะรุนแรงกว่า คือ มีไข้สูง น้ำมูก ไอ จาม อาจมีถ่ายเหลว หรือชักจากไข้สูงร่วมด้วย


ดังนั้น การป้องกันการเจ็บป่วยของลูกน้อยนั้น ควรเริ่มจากครอบครัวเป็นอันดับแรก กล่าวคือ คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลสุขอนามัยของลูกให้สะอาดอยู่เสมอ หมั่นทำความสะอาดของใช้และของเล่นลูกเป็นประจำ หลีกเลี่ยงการพาลูกไปในแหล่งชุมชนแออัดเป็นเวลานาน สอนสุขศึกษาให้ลูกเพื่อป้องกันโรค ได้แก่ การใส่หน้ากากอนามัย การล้างมือ การหลีกเลี่ยงใช้แก้วน้ำร่วมกับผู้อื่น และหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย


นอกจากนี้การที่คุณพ่อคุณแม่หมั่นสังเกตอาการของลูกอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ลูกได้รับการดูแลรักษาอย่างทันท่วงที และหากลูกมีอาการเจ็บป่วย ควรให้ลูกหยุดเรียนเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อแก่ผู้อื่น นอกจากนี้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อลูกมีไข้ (วัดอุณหภูมิทางรักแร้ มากกว่า 37.5 องศาเซลเซียส) คุณพ่อคุณแม่ควรเช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำอุ่น โดยการเช็ดเข้าหาหัวใจเพื่อเปิดรูขุมขน เป็นระยะเวลาประมาณ 15-20 นาที และวัดอุณหภูมิซ้ำภายหลังการเช็ดตัว


การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับเด็กในทุกช่วงวัย สำหรับในเด็กขวบปีแรก จะส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เพราะนอกจากนมแม่จะอุดมด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์แล้ว ยังมีภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ให้แก่ลูกน้อยอีกด้วย นอกจากนี้อีกหนึ่งวิธีที่สำคัญในสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน คือ การฉีดวัคซีน ซึ่งช่วยป้องกันและลดระดับความรุนแรงของโรคระบบทางเดินหายใจ สำหรับวัคซีนป้องกันโรคปอดอักเสบ สามารถฉีดในเด็กได้ตั้งแต่อายุ 2 เดือน และวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ สามารถฉีดในเด็กได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนขึ้นไป


การรู้เท่าทันโรคในฤดูฝนซึ่งพบบ่อยในเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคระบบทางเดินหายใจที่ได้กล่าวไป จะช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่มีความรู้ในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน และป้องกันลูกน้อยให้แข็งแรงห่างไกลจากโรคระบบทางเดินหายใจได้