ชาวเคหะห้วยขวางอุ่นใจ “ตู้ห่วงใย” ใกล้บ้าน เจ็บป่วยเล็กน้อย ใช้ “สิทธิบัตรทอง” หาหมอสะดวก

www medi.co.th

ชาวเคหะชุมชนห้วยขวางอุ่นใจ “ตู้ห่วงใย” ติดตั้งในชุมชน หากเจ็บป่วยเล็กน้อย ใช้สิทธิบัตรทองหาหมอพร้อมรับยาสะดวก ไม่ต้องรอคิวนาน ลดความแออัดในโรงพยาบาล และลดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบาง


นายสมชาติ ม้าสุวรรณ ประธานสภาเคหะชุมชนห้วยขวาง กล่าวถึงการติดตั้ง “ตู้ห่วงใย” ในชุมชนฯ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) เข้ารับบริการรักษาพยาบาลได้สะดวกมากขึ้นว่า ส่วนมากแล้วประชาชนในเคหะชุมชนห้วยขวางไม่ใช่คนรวย เป็นคนที่มีรายได้พออยู่พอกิน ต้องขอขอบคุณสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ที่นำโครงการดี ๆ แบบนี้ ตามนโยบาย “30 บาทรักษาทุกที่” ของรัฐบาลมาสู่ชุมชน ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที และที่สำคัญยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้


“บริการตู้ห่วงใยนี้ ไม่คิดว่าจะคิดขึ้นมาได้ ทำให้รู้สึกอุ่นใจว่า สปสช. ห่วงใยชุมชนของเรา ตอนนี้คนอาจจะยังไม่รู้ว่ามีตู้นี้ ทำให้การใช้บริการอาจจะยังน้อย แต่ในอนาคต ถ้ามีจำนวนผู้ใช้บริการมากขึ้น อยากให้เพิ่มจำนวนตู้ห่วงใยให้มากขึ้น โดยเฉพาะในชุมชนต่าง ๆ ทั่ว กทม.” นายสมชาติ กล่าว

ด้าน นางภัคศนันท์ อับดุลเลาะ หนึ่งในผู้ใช้บริการตู้ห่วงใย กล่าวว่า ได้ลองใช้งานแล้วรู้สึกประทับใจ มีความรวดเร็วและสะดวกสำหรับผู้สูงอายุ เพราะถ้าไปรับบริการที่โรงพยาบาล คนไข้ก็เยอะและยังต้องรอนานมากกว่าจะได้คุยกับหมอ การมีตู้ห่วงใยติดตั้งใกล้บ้านทำให้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุที่เจ็บป่วยไม่มาก จึงอยากเชิญชวนให้มาลองใช้งานตู้ห่วงใยดู ถึงจะเป็นเทคโนโลยีใหม่แต่การใช้งานก็ไม่ได้ยุ่งยาก


เช่นเดียวกับ นางรัตนา พรพิพัฒน์รุ่งศรี อีกหนึ่งผู้ใช้บริการตู้ห่วงใย กล่าวว่า ตู้ห่วงใยมีประโยชน์ในแง่ของการป้องกันโรค ลดค่าใช้จ่าย ลดเวลาในการเดินทาง และได้รับการรักษารวดเร็วขึ้น เวลาเจ็บป่วยไม่มากก็ได้พบคุณหมอผ่านระบบออนไลน์และได้รับยารักษา ดีกว่าปล่อยอาการทิ้งไว้เพราะไม่อยากไปที่โรงพยาบาลที่มีความแออัด และเมื่อมีตู้ห่วงใยมาอยู่ใกล้บ้านแล้ว จึงอยากชวนพี่น้องในเคหะชุมชนห้วยขวางและชุมชนใกล้เคียงมาลองใช้บริการกันดู

ขณะที่ นายสิริชัย จุลรักษ์ พนักงานจัดการทรัพย์สิน สำนักงานเขตนครหลวง สาขาห้วยขวาง การเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การมีตู้ห่วงใยตั้งอยู่ในชุมชนเป็นเรื่องที่มีประโยชน์มาก เพราะคนในชุมชนส่วนมากมีรายได้น้อยถึงปานกลาง และกลุ่มเป้าหมายซึ่งเป็นผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางก็มีความลำบากเวลาไปโรงพยาบาล และมีค่าใช้จ่ายเดินทาง ดังนั้นการรับบริการที่ตู้ห่วงใยจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ลดขั้นตอนไปได้มาก เวลาไม่สบายก็พบแพทย์ได้ทันท่วงที และยังลดความแออัดในโรงพยาบาลด้วย