บอร์ด สปสช. เห็นชอบขยายทั่วประเทศ ‘รักษาที่หน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้’

บอร์ด สปสช. เห็นชอบประกาศขยายบริการทั่วประเทศ ‘ประชาชนที่เจ็บป่วยไปหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้’ หนึ่งในนโยบายยกระดับบัตรทอง บอร์ด สปสช.เห็นชอบเดินหน้าผ่านประกาศฉบับใหม่ รุกจัดระบบบริการในพื้นที่อีก 8 เขตเพิ่มเติม ย้ำหลักการ ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองยังคงเข้ารับบริการที่หน่วยบริการประจำที่ลงทะเบียนและหน่วยบริการปฐมภูมิในเครือข่าย แต่กรณีมีความจำเป็น(เหตุสมควร) สามารถเข้ารับบริการปฐมภูมิที่หน่วยบริการปฐมภูมินอกเครือข่ายได้


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ตามที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ได้มีนโยบายยกระดับบัตรทอง โดยการพัฒนาระบบบริการเพื่อให้ “ประชาชนที่เจ็บป่วยไปรับบริการกับหมอประจำครอบครัว ในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้” เป็น 1 ใน 4 บริการที่บอร์ด สปสช. ได้เห็นชอบในหลักการเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2563 และให้ สปสช.เร่งดำเนินการ 


เบื้องต้น สปสช.ได้เริ่มนำร่องดำเนินการจัดระบบบริการนี้ในพื้นที่เขต 9 นครราชสีมา และเขต 13 กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2564 เนื่องจากเป็นที่พื้นที่มีความพร้อม และต่อมาได้ขยายระบบบริการเพิ่มเติมในพื้นที่เขต 7 ขอนแก่น เขต 8 อุดรธานี และเขต 10 อุบลราชธานี โดยได้รับการตอบรับจากประชาชนอย่างมาก เพราะทำให้ประชาชนที่มีความจำเป็นสามารถเข้ารับการรักษาโดยใช้สิทธิบัตรทองที่หน่วยบริการปฐมภูมิไหนก็ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จากเดิมที่จำกัดเฉพาะการรับบริการที่หน่วยบริการประจำและหน่วยบริการปฐมภูมิในเครือข่าย ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการที่เป็นอุปสรรคต่อการใช้สิทธิ และเพิ่มการเข้าถึงบริการในระบบบัตรทองให้กับประชาชน โดยหลักการคือ ผู้ป่วยสิทธิบัตรทองยังคงเข้ารับบริการที่หน่วยบริการประจำที่ลงทะเบียนและหน่วยบริการปฐมภูมิในเครือข่าย แต่กรณีมีความจำเป็น(เหตุสมควร) สามารถเข้ารับบริการปฐมภูมิที่หน่วยบริการปฐมภูมินอกเครือข่ายได้


นพ.จเด็จ กล่าวว่า จากประโยชน์ที่เกิดกับประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองอย่างเป็นรูปธรรมนี้ ในการประชุมบอร์ด สปสช. เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งมีนายอนุทินเป็นประธาน ได้เห็นชอบให้ สปสช. ขยายบริการประชาชนที่เจ็บป่วยไปรับบริการกับหมอประจำครอบครัว ในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ไปทั่วประเทศ โดยมีมติผ่าน (ร่าง) ประกาศสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง กำหนดกรณีที่มีเหตุสมควรและอัตราค่าใช้จ่ายที่หน่วยบริการมีสิทธิได้รับ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. ... มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป เพื่อรองรับการจัดบริการเพิ่มเติมในพื้นที่เขต 1 เชียงใหม่, เขต 2 พิษณุโลก, เขต 3 นครสวรรค์, เขต 4 สระบุรี, เขต 5 ราชบุรี, เขต 6 ระยอง, เขต 11 สุราษฎร์ธานี และเขต 12 สงขลา ที่ยังไม่ครอบคลุม  


สำหรับในส่วนของหน่วยบริการปฐมภูมิที่ร่วมดูแลประชาชนตามนโยบายนี้ จะได้รับการชดเชยค่าบริการที่เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การดำเนินงานและการบริหารจัดการกองทุนฯ ปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ข้อ 32.4 กรณีประชาชนไปรับบริการในหน่วยบริการอื่นที่มีเหตุสมควร นอกจากการใช้สิทธิรับบริการสาธารณสุขจากหน่วยบริการประจำของตนหรือหน่วยบริการปฐมภูมิในเครือข่ายหน่วยบริการที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นการเบิกจ่ายด้วยระบบ Point system ของรายการที่กำหนด (Fee schedule) หรือให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ สปสช.กำหนด


ทั้งนี้ นโยบายยกระดับระบบบัตรทอง 4 บริการ ได้แก่ 1. ประชาชนที่เจ็บป่วยไปรับบริการกับหมอประจำครอบครัว ในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ 2. ผู้ป่วยในไม่ต้องกลับไปรับใบส่งตัว 3. โรคมะเร็งไปรับบริการที่ไหนก็ได้ และ 4. ย้ายหน่วยบริการ ได้สิทธิทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน