โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ เผย ปัจจุบันมีผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ประมาณ 140,000 คน เสียชีวิตประมาณ 83,000 คน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยโรงพยาบาลราชวิถี เป็นโรงพยาบาลระดับตติยภูมิที่สามารถให้การดูแลผู้ป่วยทุกสิทธิการรักษาได้อย่างครบถ้วน โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้ป่วยเพิ่มโอกาสการรักษา และให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงวิวัฒน์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เทคโนโลยีของเครื่องฉายรังสีรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบันมีการพัฒนาอย่างมาก ทั้งเทคนิคการฉายรังสีและอุปกรณ์ตรวจสอบเพื่อความถูกต้องแม่นยำ ทำให้ได้การรักษามีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมโรคได้ดีขึ้นและลดผลข้างเคียงให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น โดยกระทรวงสาธารณสุขมุ่งพัฒนาระบบบริการที่มีคุณภาพ ทั้งการส่งเสริมป้องกัน คัดกรอง ตรวจวินิจฉัย รักษา และดูแลฟื้นฟูกายใจครบวงจร เพื่อลดอัตราการป่วย การเสียชีวิต และเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้ป่วย ให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการที่มีมาตรฐานได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย “ยกระดับบริการการแพทย์ขั้นสูงที่เข้าถึงได้และทันสมัย” ของนายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้บริการการแพทย์ขั้นสูงด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมการแพทย์สมัยใหม่ เดินหน้าเปลี่ยนระบบสุขภาพไทยให้เป็นระบบคุณภาพ เพื่อสุขภาพที่ดีของประชาชน

นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชวิถี กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลราชวิถี ให้บริการผู้ป่วยทุกสิทธิการรักษา และโรคมะเร็งทุกระบบที่ต้องได้รับการรักษาโดยการฉายรังสี โดยเครื่องเร่งอนุภาคใหม่ได้เริ่มใช้งานเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2567 โดยเฉลี่ยฉายรังสีผู้ป่วยวันละ 50 รายต่อวัน ด้วยความทันสมัยพร้อมระบบทำงานครบถ้วนสมบูรณ์สามารถรองรับการฉายรังสีได้ทุกเทคนิคเท่าเทียมกับโรงเรียนแพทย์ที่มีเครื่องเร่งอนุภาคชนิดเดียวกันจึงสามารถให้บริการด้วยเทคนิคที่เหมาะสมตามมาตรฐานสากล
แพทย์หญิงสิริมา เอื้อศรีธนากร หัวหน้ากลุ่มงานรังสีรักษา โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มงานรังสีรักษาโรงพยาบาลราชวิถีเปิดบริการรักษาโรคมะเร็งด้วยการฉายรังสี ด้วยเครื่องเร่งอนุภาคที่มีความสามารถรองรับการฉายรังสีด้วยเทคนิคพิเศษ ที่สามารถใช้รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งได้ตั้งแต่เทคนิคแบบสามมิติ เทคนิคปรับความเข้ม ซึ่งเป็นการฉายรังสีที่ช่วยลดผลข้างเคียงในการฉายรังสีให้กับผู้ป่วย และยังมีการฉายรังสีด้วยเทคนิคพิเศษ คือการฉายเทคนิครังสีร่วมพิกัด โดยมีการพัฒนาทั้งด้านเครื่องมือ และบุคคลากร เพื่อรองรับผู้ป่วยที่มีความจำเป็นในการใช้เทคนิคพิเศษ โดยเฉพาะเทคนิครังสีศัลยกรรมรอยโรคในสมอง แบบ SRS ที่ให้ปริมาณรังสีสูงมากเพียง 1 ครั้ง และแบบ SRT ที่ให้ปริมาณรังสีสูง จำนวนครั้งการฉาย 2- 5 ครั้ง และในเครื่องเร่งอนุภาคใหม่นี้ สามารถตรวจสอบความถูกต้องของตำแหน่งการฉายรังสีด้วยอุปกรณ์ ระบบ Exactrac Dynamic ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับเครื่องเร่งอนุภาค โดยมีจุดประสงค์เพื่อถ่ายภาพระหว่างฉายรังสีเพื่อความแม่นยำที่สูงขึ้น โดยจะประกอบไปด้วยเครื่องเอกซเรย์ 2 เครื่อง ที่ทำหน้าที่ในการถ่ายภาพอยู่ที่มุม 2 ข้างของเตียงผู้ป่วย และกล้อง 4D Thermal camera ซึ่งสามารถจับสัญญาณภาพพื้นผิวและสัญญาณคลื่นความร้อนจากร่างกายผู้ป่วย เพื่อใช้ในการติดตามตำแหน่งของผู้ป่วยในระหว่างการรักษา หากระบบตรวจจับความคาดเคลื่อนของตำแหน่งผู้ป่วยเกินค่าที่ตั้งไว้ ระบบจะทำการหยุดฉายรังสีทันที ช่วยลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงแก่ผู้ป่วย และยังสามารถตรวจสอบตำแหน่งการฉายด้วยระบบถ่ายภาพเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แบบสี่มิติ ที่เพิ่มความแม่นยำในการฉายด้วยเทคนิครังสีศัลยกรรมภายนอกสมอง รองรับการตรวจสอบตำแหน่งในการฉายรังสีในมะเร็งปอด และช่องท้อง ให้มีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น

 

10 พฤศจิกายน 2568