สายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 สรุปผลการดำเนินงานปีงบประมาณ 2567–2568 พบว่า จำนวนผู้โทรเข้ารับบริการจะลดลงเมื่อเทียบกับเป้าหมาย แต่คุณภาพบริการโดยรวมดีขึ้น ระบุอัตราผู้ที่ตั้งใจเลิกบุหรี่และยินยอมให้ติดตามผล “เลิกบุหรี่ได้ต่อเนื่องมากกว่า 6 เดือนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น” ขณะที่กลุ่มเด็กและเยาวชน วัยทำงานตอนต้น หันมาใช้บริการมากขึ้นอย่างชัดเจน
รศ.ดร.จินตนา ยูนิพันธุ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการเลิกบุหรี่ทางโทรศัพท์แห่งชาติ เปิดเผยว่า ในปี 2567–2568 มีเป้าหมายให้บริการผู้สูบบุหรี่จำนวน 18,960 ราย โดยในปี 2567 ให้บริการได้ 17,106 ราย และปี 2568 อยู่ที่ 16,486 ราย แม้ตัวเลขผู้ใช้บริการจะลดลงเล็กน้อย แต่เมื่อพิจารณาเชิงคุณภาพกลับพบผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสัดส่วนผู้ที่มีความตั้งใจเลิกบุหรี่จริง การยินยอมให้ติดตามผล รวมถึงความสำเร็จในการเลิกบุหรี่แบบไม่สูบแม้แต่วันเดียวต่อเนื่องเกิน 6 เดือน ซึ่งในปี 2568 มีอัตราสูงขึ้นจากปีก่อนหน้า
ในด้านประสิทธิภาพการให้บริการ ปี 2568 สายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 สามารถรับสายและให้บริการได้ถึง 87% ของสายที่โทรเข้ามาทั้งหมด ส่วนสายที่ไม่สามารถรับได้ ส่วนใหญ่เป็นกรณีวางสายก่อน หรือเป็นสายโทรเล่นและสายเสีย โดยพบว่าสายโทรเล่นมีจำนวนมากในช่วงเดือนกรกฎาคม และเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงปิดเทอมและปลายปี
ข้อมูลที่น่าสนใจอีกประเด็นคือ โครงสร้างอายุของผู้โทรเข้ามารับบริการเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน หากย้อนดูตั้งแต่เริ่มให้บริการในปี 2552 กลุ่มอายุ 40–60 ปีเคยเป็นกลุ่มหลักที่โทรเข้ามาขอคำปรึกษา แต่ในช่วง 2 ปีหลังที่ผ่านมา ภายหลังการแพร่ระบาดของบุหรี่ไฟฟ้า พบว่าผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี และกลุ่มอายุ 21–30 ปี โทรเข้ามารับบริการรวมกันสูงถึง 40% ขณะที่กลุ่มอายุ 50–60 ปีมีสัดส่วนลดลง
นอกจากนี้ ยังพบว่าเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้า ซึ่งมักเริ่มสูบในช่วง 1–5 ปีแรก ตัดสินใจโทรเข้ามาขอความช่วยเหลือเร็วขึ้น เนื่องจากผลกระทบต่อสุขภาพเกิดขึ้นชัดเจนและรวดเร็ว ขณะที่ผู้สูบบุหรี่มวนมีแนวโน้มโทรเข้ามารับบริการลดลง เนื่องจากผลกระทบด้านสุขภาพใช้เวลานานกว่าจะปรากฏ
อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานยังคงมีความท้าทายสำคัญ 3 ประการ ได้แก่ การแทรกแซงของธุรกิจบุหรี่ไฟฟ้าและสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการเลิกบุหรี่ รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายที่ยังไม่เข้มแข็ง ส่งผลให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้ง่าย, การขาดการรับรู้ของประชาชนเกี่ยวกับช่องทางบริการเลิกบุหรี่ โดยเฉพาะสายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 ซึ่งเป็นบริการฟรี มีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาและติดตามผลอย่างเป็นระบบ และปัญหาเชิงระบบในระดับพื้นที่และชุมชน ทั้งการอบรมบุคลากร และการเชื่อมโยงการดูแลต่อเนื่องในคลินิกเลิกบุหรี่ของสถานพยาบาล

รศ.ดร.จินตนา ย้ำว่า ความสำเร็จของการเลิกบุหรี่ต้องอาศัย 3 องค์ประกอบสำคัญ คือ ประชาชนรับรู้และเข้าถึงบริการ ระบบการให้บริการที่มีคุณภาพ และการติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 พร้อมทำหน้าที่เป็นด่านหน้าสำคัญในการช่วยให้ผู้สูบทุกวัยเริ่มต้นเลิกบุหรี่อย่างถูกวิธี
ทั้งนี้ ขอเชิญชวนผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ หรือผู้ปกครองที่กังวลเกี่ยวกับการสูบบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้าของบุตรหลาน โทรมาขอคำปรึกษาได้ที่ สายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 ให้บริการฟรี มีทีมผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะการเลิกบุหรี่เริ่มต้นได้ตั้งแต่วันนี้ และไม่จำเป็นต้องเดินคนเดียว
