อนุทิน" เผย ผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศ 2 วัน สถานการณ์เป็นไปด้วยดี ยังไม่พบข้อติดขัด


รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เผย หลังผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศ 2 วัน สถานการณ์ยังเป็นไปด้วยดี ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามามากขึ้น ยังไม่พบข้อติดขัด ส่วนการติดเชื้อในประเทศสถานการณ์ดีขึ้น เดินหน้าเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่นควบคู่กับสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพให้กับประชาชนและทยอยผ่อนคลายมาตรการมากขึ้น ช่วยลดความกดดันของประชาชนจากภาวะค่าครองชีพสูงขึ้น


วันนี้ (2 พฤษภาคม 2565) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการเข้าประเทศมากขึ้น ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยยกเลิกระบบ Test &Go ให้ผู้ที่มีประวัติฉีดวัคซีนโควิด 19 และประกันสุขภาพสามารถเข้าประเทศได้ โดยตรวจ ATK ด้วยตนเองและรายงานผลผ่านคิวอาร์โคดใน Thailand Pass แต่หากไม่มีประวัติการฉีดวัคซีน ต้องมีผลตรวจ RT-PCR เป็นลบถายใน 72 ชั่วโมงหรือหากไม่มีผลตรวจ RT-PCR ต้องเข้ารับการกักตัว 5 วัน ซึ่งผ่านมา 2 วัน พบว่าสถานการณ์เป็นไปด้วยดี ได้รับข้อมูลจาก นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ว่าขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนเข้าประเทศไทยผ่าน Thailand Pass และทยอยเข้าประเทศจำนวนมาก เมื่อมาถึงแล้วสามารถเดินทางออกจากสนามบินได้โดยไม่มีข้อติดขัดใดๆ


นายอนุทินกล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์โรคโควิด 19 ของประเทศไทย ขณะนี้อยู่ในระดับทรงตัว การติดเชื้อรายใหม่ลดลง ผู้ป่วยอาการรุนแรงและเสียชีวิตเริ่มมีแนวโน้มลดลง เห็นได้จากการใช้ช่วยเครื่องหายใจ การใช้ห้องไอซียู และยาต้านไวรัสในแต่ละวันที่เริ่มลดลง ถือเป็นแนวโน้มที่ดีและน่าจะผ่านวิกฤตการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังช่วงสงกรานต์ไปได้ โดยกระทรวงสาธารณสุขยังเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์ด้วย 3 พอ คือ หมอพอ เตียงพอ และยาพอ


ส่วนการเดินหน้าเข้าสู่การเป็นโรคประจำถิ่น ไม่ได้ประกาศวันเวลาที่ชัดเจน แต่ใช้การดำเนินชีวิตให้ไปถึงจุดที่เรามั่นใจ ควบคู่ไปกับการให้ประชาชนมีความรอบรู้ด้านสุขภาพ (Health Literacy) เพื่อให้ใช้ชีวิตอยู่กับโควิดที่จะเป็นโรคประจำถิ่นได้ รู้วิธีป้องกันและดูแลตัวเองให้ปลอดภัย เช่น การสวมหน้ากากอนามัยยังมีความจำเป็น เนื่องจากช่วยป้องกันการติดเชื้อและแพร่เชื้อได้ ขณะเดียวกัน จะมีการประเมินสถานการณ์เป็นระยะเพื่อทยอยผ่อนคลายมากขึ้นให้ประชาชนสามารถดำเนินชีวิต ประกอบอาชีพและเลี้ยงดูตนเองได้ ช่วยลดความกดดันจากภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น