โรคข้อและกระดูกสันหลังอักเสบคืออะไร

โรคข้อและกระดูกสันหลังอักเสบหมายถึงกลุ่มโรคที่มีการอักเสบของข้อกระดูกสันหลังและข้อรยางค์ (แขนและขา) ร่วมกับการอักเสบของปลายเอ็นส่วนที่ยึดติดกับกระดูก ซึ่งก่อให้เกิดอาการปวดตึงหลัง ปวดข้อของแขนหรือขา และเจ็บที่เอ็น นอกจากนี้ยังอาจมีอาการแสดงในระบบอื่นๆ เช่น ผื่นผิวหนัง ตาแดง ตามัว หรือท้องเสีย เป็นต้น


โรคที่อยู่ในกลุ่มนี้แบ่งออกเป็น 5 โรคได้แก่
          1. โรคข้อกระดูกสันหลังอักเสบชนิดติดยึด (ankylosing spondylitis)
          2. โรคข้ออักเสบรีแอ๊คตีฟ (reactive arthritis)
          3. โรคข้ออักเสบสะเก็ดเงิน (psoriatic arthritis)
          4. โรคข้ออักเสบร่วมกับโรคลำไส้อักเสบ (enteropathic spondyloarthropathy)
          5. โรคข้อและกระดูกสันหลังอักเสบที่ยังไม่ทราบชนิด (undifferentiated spondyloarthropathy)


สาเหตุโรคข้อและกระดูกสันหลังอักเสบคืออะไร
          สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ทราบ อย่างไรก็ตามพบว่าสมาชิกของครอบครัวที่มีผู้ป่วยเป็นโรคข้อและกระดูกสันหลังอักเสบจะมีโอกาสเป็นโรคนี้มากขึ้น โดยมีความสัมพันธ์กับยีนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า HLA-B27 ดังนั้นจึงเชื่อว่าปัจจัยทางพันธุกรรมหรือยีนที่ผิดปกติน่าจะเป็นสาเหตุที่สำคัญของโรคนี้
          นอกจากนี้การติดเชื้อโรคบางชนิดเช่น เชื้อคลามัยเดียที่ทำให้เกิดการอักเสบของท่อปัสสาวะ หรือเชื้อโรคที่ทำให้เกิดท้องร่วงเช่น เชื้อซาโมเนลลา ก็สามารถกระตุ้นให้โรคข้ออักเสบรีแอ๊คตีฟกำเริบขึ้นได้ ดังนั้นปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะการติดเชื้อจึงเป็นสาเหตุที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่มากระตุ้นให้เกิดโรคนี้ขึ้น


ใครมีโอกาสเป็นโรคข้อและกระดูกสันหลังอักเสบบ้าง
          โรคข้อและกระดูกสันหลังอักเสบพบบ่อยในช่วงวัยรุ่นถึงวัยกลางคน โดยพบในผู้ชายบ่อยกว่าผู้หญิง 2-3 เท่า สมาชิกในครอบครัวของผู้ป่วยเป็นโรคนี้จะมีโอกาสเป็นโรคมากขึ้นกว่าประชากรทั่วไป
          โรคนี้พบบ่อยในประชากรของประเทศแถบขั้วโลกเหนือเช่น ชาวเอสกิโม และชาวอลาสกา รวมถึงชนพื้นเมืองของทวีปอเมริกาเหนือทางตะวันตก อุบัติการณ์ในประเทศไทยยังไม่ทราบแน่ชัดแต่คาดว่าน่าจะใกล้เคียงกับประเทศทางตะวันตก


แพทย์จะวินิจฉัยโรคข้อและกระดูกสันหลังอักเสบได้อย่างไร
          การวินิจฉัยโรคจะอาศัยประวัติครอบครัว ร่วมกับอาการข้อและกระดูกสันหลังอักเสบของท่าน การถ่ายภาพเอกซเรย์ของกระดูกสันหลังและกระดูกเชิงกรานจะช่วยยืนยันการวินิจฉัยโรคได้ ส่วนการตรวจหายีน HLA-B27 ก็อาจช่วยในการประเมินปัจจัยเสี่ยงของโรคแต่ก็ไม่จำเป็นต้องตรวจในผู้ป่วยทุกคน
          ลักษณะอาการเด่นและมีความจำเพาะต่อโรคนี้ คืออาการปวดหรือตึงหลัง ซึ่งมักจะปวดที่บริเวณกระดูกสันหลังส่วนล่างและกระเบนเหน็บ โดยจะเป็นมากในช่วงตื่นนอนตอนเช้า อาการจะค่อยๆ ดีขึ้นในช่วงสายๆ หรือบ่ายๆ ผู้ป่วยที่เป็นโรคมานานอาจมีหินปูนเชื่อมกระดูกสันหลังให้ติดกันและทำให้ไม่สามารถก้มหรือหงายหลังได้อย่างเต็มที่
          ผู้ป่วยอีกส่วนหนึ่งจะมีอาการปวดข้อและข้ออักเสบร่วมด้วย โดยพบบ่อยที่ข้อเข่า ข้อเท้า และข้อสะโพก บางรายอาจมีข้ออักเสบที่ข้อมือ ข้อศอก หรือข้อนิ้วมือ นอกจากนี้ยังอาจพบการอักเสบของปลายเอ็นตรงตำแหน่งที่ยึดเกาะกับกระดูก เช่น เอ็นร้อยหวาย และเอ็นฝ่าเท้าหรือส้นเท้า เป็นต้น
          ผู้ป่วยบางรายอาจมีผื่นเป็นสะเก็ดที่ผิวหนัง เล็บผิดปกติ ท้องเสียเรื้อรัง ม่านตาอักเสบ เยื่อบุตาอักเสบ หรือลิ้นหัวใจรั่วร่วมด้วย อาการแสดงนอกข้อเหล่านี้มีประโยชน์ช่วยทำให้ทราบว่าผู้ป่วยเป็นโรคใดในกลุ่มโรคข้อและกระดูกสันหลังอักเสบนี้


โรคข้อและกระดูกสันหลังอักเสบมีวิธีการรักษาอย่างไร
          การรักษาโรคในกลุ่มนี้จะมีความคล้ายคลึงกับโรคอื่นๆ ที่มีข้ออักเสบ โดยมีหลักการเบื้องต้นคือการออกกำลังกาย การทำกายภาพบำบัด และการใช้ข้ออย่างถูกวิธี ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถทำกิจวัตรประจำวันได้เหมือนคนปกติ ผู้ป่วยที่มีอาการปวดข้อหรือมีอาการติดยึดของกระดูกสันหลังอย่างมากก็จำเป็นจะต้องใช้ยารักษาร่วมด้วย ส่วนการผ่าตัดมีความจำเป็นในผู้ป่วยบางรายที่มีความพิการของข้อหรือกระดูกสันหลังอย่างมากแล้ว
          ยาที่ใช้รักษาโรคนี้มี 2 กลุ่มคือ
          1. กลุ่มยาที่ช่วยบรรเทาอาการ ได้แก่ ยาที่มีฤทธิ์บรรเทาอาการอักเสบและเจ็บปวดที่ข้อ ได้แก่ ยาแก้ปวดและยาต้านการอักเสบที่ไม่ใช่สารเสตียรอยด์ (non-steroidal anti-inflammatory drugs, NSAIDs)
          2. กลุ่มยาที่สามารถปรับเปลี่ยนการดำเนินโรคเพื่อทำให้โรคสงบ ในผู้ป่วยที่มีอาการเรื้อรังหรือรุนแรงแพทย์จะพิจารณาใช้ยาในกลุ่มนี้ซึ่งได้แก่ ยาเม็ทโธเทรกเซท (methotrexate) และยาซัลฟาซาลาซีน (sulfasalazine) ในระยะหลังได้มีการนำยาใหม่ๆ มาใช้รักษาโรคนี้ โดยเฉพาะกลุ่มยาชีวภาพซึ่งออกฤทธิ์ต้านการทำงานของสารทีเอ็นเอฟ (anti-TNF agents) อย่างไรก็ตามยาเหล่านี้มีราคาค่อนข้างสูงและยังทำให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงหลายอย่าง การใช้ยาดังกล่าวจึงควรอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ผู้รักษาและจะต้องมีการติดตามการรักษาอย่างใกล้ชิด


ท่านจะดูแลตนเองอย่างไรเมื่อเป็นโรคข้อและกระดูกสันหลังอักเสบ
          ถึงแม้ว่าผู้ป่วยโรคนี้จะมีความเจ็บปวดจากการอักเสบของข้อ แต่ผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็สามารถดำรงชีวิตได้เช่นคนทั่วไป การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะช่วยเพิ่มสมรรถภาพการทำงานของร่างกายและลดความพิการของข้อและกระดูกสันหลังลงได้


ข้อควรจำ
          - โรคข้อและกระดูกสันหลังอักเสบเป็นโรคชนิดหนึ่งที่มีการอักเสบของข้อกระดูกสันหลังและข้อรยางค์ของแขนและขา ร่วมกับการอักเสบของปลายเอ็นส่วนที่ยึดติดกับกระดูก โดยที่ผู้ป่วยส่วนหนึ่งจะมีผื่นผิวหนัง เล็บผิดปกติ ท้องเสียเรื้อรัง ม่านตาอักเสบ เยื่อบุตาอักเสบ หรือลิ้นหัวใจรั่วร่วมด้วย
          - โรคนี้พบบ่อยในช่วงวัยรุ่นถึงวัยกลางคน โดยพบในผู้ชายบ่อยกว่าผู้หญิง 2-3 เท่า สมาชิกในครอบครัวของมีโอกาสเป็นโรคนี้มากขึ้นกว่าประชากรทั่วไป
          - การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การทำกายภาพบำบัด และการใช้ข้ออย่างถูกวิธี ร่วมกับการใช้ยารักษาโรคจะช่วยให้ท่านสามารถทำกิจวัตรประจำวันและมีคุณภาพชีวิตดีเหมือนคนปกติ