เหงื่อออกที่มือ สัญญาณผิดปกติ

นพ.ศิระ เลาหทัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ศัลยศาสตร์ทรวงอกเฉพาะทางด้านผ่าตัดส่องกล้อง
โรงพยาบาลวชิรพยาบาล

โรคเหงื่อออกที่มือ เป็นโรคที่พบได้ค่อนข้างบ่อยมากถึง 3% ของประชากรของประเทศ สามารถพบได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิงเท่า ๆ กัน และมักพบในคนที่อายุน้อย โดยอาการแต่ละคนจะมีผลต่อกิจวัตรประจำวัน เริ่มตั้งแต่การหยิบจับอะไรก็ตาม ก็จะมีเหงื่อซึมออกมาตลอดเวลา จนทำให้เกิดความรำคาญจนไปถึงบางรายอาจส่งผลถึงคุณภาพชีวิต ไม่มั่นใจและไม่กล้าเข้าสังคม  เช่น ในกลุ่มที่ต้องใช้มือค่อนข้างมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ต้องใช้มือในการประกอบอาชีพ เช่น พ่อค้าแม่ค้า พนักงานที่ทำงานในโรงงาน หรือวิศวกรที่ทำงานกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ หรือกลุ่มนักธุรกิจที่ต้องใช้มือในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้า
          นพ.ศิระ เลาหทัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ศัลยศาสตร์ทรวงอกเฉพาะทางด้านผ่าตัดส่องกล้อง โรงพยาบาลวชิรพยาบาล กล่าวว่า อาการของโรคเหงื่อออกที่มือมีทั้งหมด 2 สาเหตุ คือ ความผิดปกติของเส้นประสาทระบบอัตโนมัติ กับมีโรคหรือปัจจัยภายนอกที่ทำให้เกิดอาการ ในกลุ่มของผู้ป่วยที่มีความผิดปกติของเส้นประสาทระบบอัตโนมัติ มักจะพบในคนอายุน้อย โดยอาการที่เป็นส่วนมากจะเกิดที่มือทั้ง 2 ข้าง บางรายจะมีเหงื่อออกที่บริเวณฝ่าเท้าทั้ง 2 ข้างด้วย โดยไม่สัมพันธ์กับอุณหภูมิอากาศ  การออกกำลังกายหรือท่าทาง ส่วนอีกสาเหตุหรือปัจจัยภายนอกที่ทำให้มีอาการเหงื่อออกที่มือคล้ายคลึงกัน ซึ่งได้แก่ โรคจากระบบต่อมไร้ท่อ เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคเบาหวาน หญิงตั้งครรภ์หรือหญิงวัยใกล้หมดประจำเดือน โรคจากระบบประสาท เช่น โรคพาร์กินสัน หรืออาการจากการใช้ยา หรือสาเหตุอื่น ๆ เช่น ป่วยเป็นโรคมะเร็งหรือโรคทางระบบประสาท เป็นต้น

          ผู้ป่วยโรคเหงื่อออกที่มือหลาย ๆ รายพยายามหาวิธีการรักษาเพื่อให้หายขาด โดยหลักการรักษาของโรคนี้คือ การทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การรักษามีตั้งแต่การใช้ยาทา โดยยาที่นิยมใช้ คือ ยาทาระงับเหงื่อ หรือที่เรียกว่าอะลูมิเนียมคลอไรด์ (Aluminum Chloride) มักใช้ในผู้ป่วยที่มีอาการน้อย ส่วนยาชนิดรับประทาน คือ กลุ่ม Anticholinergic Drug  อย่างไรก็ตาม ยาชนิดรับประทานอาจมีผลข้างเคียง เช่น ปากแห้ง ท้องผูก คลื่นไส้และอาเจียนได้ นอกจากนี้ ยังมีการรักษาโดยการฉีดยาที่มือโดยใช้กลุ่มยา Botulinum Toxin โดยส่วนมากมักสามารถคุมอาการได้ประมาณ 6 เดือน หลังจากนั้นอาจต้องมารักษาฉีดยาซ้ำอีก สุดท้ายนี้รักษาด้วยวิธีการผ่าตัด (Thoracoscopic sympathectomy) เป็นการรักษาโรคชนิดนี้ได้ผลดีที่สุด โดยทำการผ่าตัดเส้นประสาทบริเวณซี่โครงที่ 3-5 โดยผ่าตัดทางส่องกล้อง โดยมีแผลเล็ก ๆ ขนาด 1 ซม. ทั้ง 2 ข้าง ใช้เวลาในการผ่าตัดประมาณ 1 ชั่วโมง และสามารถกลับบ้านได้วันถัดไป อย่างไรก็ตาม การเลือกวิธีการผ่าตัดอาจมีผลข้างเคียงเกิดภาวะเหงื่อเกิน (Compensatory Hyperhidrosis) โดยพบได้ 10 - 40% ของผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัด โดยจะมีอาการเหงื่อออกมากผิดปกติบริเวณช่วงลำตัว
          โรคเหงื่อออกตามมือ เป็นสัญญาณผิดปกติ แต่จะไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ส่งผลให้คุณภาพชีวิตลดลง  ดังนั้น จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการวินิจฉัยและรับการรักษาที่ตรงจุด โดยแพทย์จะดูจากลักษณะการออกของเหงื่อ ร่วมกับการตรวจร่างกายด้านอื่น ๆ ด้วย เพื่อวางแผนการรักษาที่ต้นเหตุของสาเหตุที่แท้จริง เพื่อสร้างวิถีชีวิตใหม่ของผู้ป่วยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น