Daprodustat ความหวังใหม่ของผู้ป่วยโรคไตที่มีภาวะโลหิตจาง

ผลการศึกษาทางคลินิกในระยะที่ 3 ของ daprodustat ยาตัวใหม่ชนิดรับประทานที่กำลังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาวิจัยทางคลินิก แสดงให้เห็นว่า daprodustat มีประสิทธิภาพไม่ด้อยกว่ายากลุ่ม erythropoiesis-stimulating agents (ESAs) ในการรักษาภาวะโลหิตจางในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังทั้งที่ไม่ได้ฟอกเลือดและกำลังอยู่ในระหว่างการฟอกเลือด
          ผลการศึกษาทางคลินิกแบบ randomized, open-label, phase 3 trial ที่มีชื่อว่า ASCEND (Anemia Studies in Chronic Kidney Disease) ซึ่งเป็นการศึกษาประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ daprodustat เปรียบเทียบกับยากลุ่ม ESAs ซึ่งเป็นมาตรฐานการรักษาสำหรับผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่มีภาวะโลหิตจางอยู่ในปัจจุบัน ที่ได้รับการนำเสนอในงานประชุม Kidney Week 2021 (virtual meeting) ซึ่งจัดขึ้นโดย American Society of Nephrology (ASN) ในระหว่างวันที่ 4-7 พฤศจิกายน 2564 และได้รับการเผยแพร่เว็บไซต์ของวารสารการแพทย์ New England Journal of Medicine (NEJM) เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2564 แสดงให้เห็นว่า daprodustat ยาตัวใหม่ชนิดรับประทานในกลุ่ม hypoxia-inducible factor (HIF) prolyl hydroxylase (HP) inhibitors หรือ HIF PH inhibitors มีประสิทธิภาพไม่ด้อยกว่ายากลุ่ม ESAs ที่ต้องบริหารยาด้วยการฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ทั้งในแง่ของการเพิ่มระดับ hemoglobin และการคงไว้ซึ่งระดับ hemoglobin ตามเป้าหมาย และรวมถึงการลดความเสี่ยงของการเกิด cardiovascular adverse events ทั้งในกลุ่มผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่ไม่ได้ฟอกเลือดและที่กำลังอยู่ในระหว่างการฟอกเลือด
          โดยในกลุ่มผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังจำนวน 2,964 รายที่กำลังอยู่ในระหว่างการฟอกเลือดและมีระดับ hemoglobin เมื่อเริ่มต้นการศึกษาอยู่ที่ 8.0-11.5 กรัม/เดซิลิตร พบว่ามีระดับ hemoglobin เพิ่มขึ้น 0.28±0.02 กรัม/เดซิลิตรสำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับ oral daprodustat และเพิ่มขึ้น 0.10±0.02 สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับ injectable ESA ขณะเดียวกันพบว่ามีอัตราของการเกิด major adverse cardiovascular events (MACE; all-cause mortality, non-fatal myocardial infarction หรือ non-fatal stroke) อยู่ที่ 25.2% (มี MACE เกิดขึ้นในผู้ป่วย 374 รายจากผู้ป่วยจำนวนทั้งสิ้น 1,487 ราย) สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับ oral daprodustat เทียบกับ 26.7% (มี MACE เกิดขึ้นในผู้ป่วย 394 รายจากผู้ป่วยจำนวนทั้งสิ้น 1,477 ราย) ของกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับ injectable ESA
          ขณะที่ในกลุ่มผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังจำนวน 3,872 รายที่ไม่ได้ฟอกเลือดและมีระดับ hemoglobin เมื่อเริ่มต้นการศึกษาอยู่ที่ 8.0-11.5 กรัม/เดซิลิตร พบว่ามีระดับ hemoglobin เพิ่มขึ้น 0.74±0.02 กรัม/เดซิลิตรสำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับ oral daprodustat และเพิ่มขึ้น 0.66±0.02 กรัม/เดซิลิตรสำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับ injectable ESA ขณะเดียวกันพบว่ามีอัตราการเกิด MACE อยู่ที่ 19.5% (มี MACE เกิดขึ้นในผู้ป่วย 378 รายจากผู้ป่วยจำนวนทั้งสิ้น 1,937) สำหรับกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับ oral daprodustat เทียบกับ 19.2% (มี MACE เกิดขึ้นในผู้ป่วย 371 รายจากผู้ป่วยจำนวนทั้งสิ้น 1,935 ราย) ของกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับ injectable ESA
           สำหรับ adverse events อื่นๆ ที่พบได้ในกลุ่มผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่มีภาวะโลหิตจางทั้งที่ไม่ได้ฟอกเลือดและที่กำลังอยู่ในระหว่างการฟอกเลือด ที่ได้รับ oral daprodustat ได้แก่ hypertension, diarrhea, dialysis hypotension, peripheral edema และ urinary tract infection
           คณะผู้วิจัยของ ASCEND สรุปว่า daprodustat เป็นยาตัวแรกในกลุ่ม oral HIF-PH inhibitors ที่แสดงให้เห็นว่ามี positive efficacy และไม่มีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการเกิด cardiovascular adverse events ทั้งในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่กำลังอยู่ในระหว่างการฟอกเลือดและไม่ได้ฟอกเลือด

แหล่งที่มาของข้อมูล: https://medicalxpress.com, www.nejm.org, www.prnewswire.com, www.healio.com