ยามุ่งเป้า ทางเลือกใหม่ของการรักษามะเร็ง

โดย นพ.วรเศรษฐ์ สายฝน

ปัจจุบันการรักษามะเร็งวิวัฒนาการมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง การศึกษาพันธุกรรมของเซลล์มะเร็งทำให้ค้นพบว่าเซลล์มะเร็งมีคุณสมบัติเฉพาะตัว เช่น มีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมซึ่งส่งผลต่อการส่งสัญญาณการแบ่งตัวภายในเซลล์ (Signal transduction pathway) ทำให้เซลล์มะเร็งเจริญเติบโตได้เองอย่างไม่จำกัด มีความสามารถในการสร้างหลอดเลือดมาเลี้ยงตัวเอง สามารถหลบหลีกการถูกทำลายจากภูมิคุ้มกันของร่างกาย และสามารถมีความสามารถแพร่กระจายไปอวัยวะต่าง ๆ ได้
ความสามารถพิเศษเหล่านี้เกิดจากการกลายพันธุ์ของยีนบางชนิดซึ่งส่งผลต่อการทำงานของโปรตีนต่าง ๆ ที่ควบคุมการแบ่งตัวของมะเร็ง โดยมะเร็งแต่ละชนิดมีการกลายพันธุ์ของยีนต่าง ๆ ไม่เหมือนกัน เมื่อนักวิจัยสามารถศึกษาจนค้นพบว่า กลไกใดสำคัญต่อมะเร็งชนิดใด จึงสามารถพัฒนายามายับยั้งกลไกการทำงานของยีนกลายพันธุ์นั้น ๆ ทำให้เซลล์มะเร็งถูกทำลายลงได้ในที่สุด จึงเรียกยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะเจาะจงในกลไกการแบ่งตัวที่ถูกรบกวนเหล่านี้ว่า ยามุ่งเป้า (Targeted therapy)
โดยยามุ่งเป้าในปัจจุบันจะมีชนิดออกฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งเซลล์ และชนิดที่ยับยั้งการสร้างเส้นเลือดเป็นหลัก


ความแตกต่างระหว่างยามุ่งเป้าและยาเคมีบำบัด
- ยามุ่งเป้าทำลายเซลล์มะเร็งเป้าหมายโดยตรง โดยอาจส่งผลต่อเซลล์ปกติเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ยาเคมีบำบัดทำลายทั้งเซลล์มะเร็งและเซลล์ปกติที่แบ่งตัวเร็ว
- ยามุ่งเป้ามักมีผลข้างเคียงน้อยกว่ายาเคมีบำบัด
- ยามุ่งเป้าใช้ได้เฉพาะในมะเร็งบางชนิดและต้องตรวจพบยีนกลายพันธุ์ที่เข้าได้กับยามุ่งเป้านั้น ในส่วนของยาเคมีบำบัดไม่ต้องตรวจการกลายพันธุ์ของมะเร็งก่อน


รูปแบบของยามุ่งเป้า
-มีทั้งรูปแบบยากิน (Tyrosine kinase inhibitors) และยาฉีด (monoclonal antibody)
- มีทั้งการใช้เป็นยาชนิดเดียวและการใช้ร่วมกับยาอื่น เช่น ยาเคมีบำบัด ยาภูมิคุ้มกันบำบัด


ประโยชน์ของยามุ่งเป้าในการรักษามะเร็ง
- เพิ่มอัตรารอดชีวิตของผู้ป่วยมะเร็งบางชนิดได้อย่างชัดเจน
- ทำให้เซลล์มะเร็งเป้าหมายยุบลงได้
- เพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย


ผลข้างเคียงของยามุ่งเป้า
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยได้แก่
- อาการทางผิวหนัง เช่น ผื่นลักษณะคล้ายสิว ผิวหนังแห้ง คัน
- อาการทางเล็บ เช่น จมูกเล็บอักเสบ
- อ่อนเพลีย
- ปาก/คออักเสบ
- ความดันโลหิตสูง


โดยผลข้างเคียงจากยาจะแตกต่างกันไปตามชนิดของยาที่ใช้ จึงควรปรึกษาแพทย์ผู้รักษาก่อนเสมอ


ขั้นตอนการใช้ยามุ่งเป้ารักษามะเร็ง
- แพทย์จำเป็นต้องนำชิ้นเนื้อมะเร็งส่งตรวจพันธุกรรม
- หากตรวจพบการยีนพันธุ์ที่เข้าได้จึงมีโอกาสใช้ยามุ่งเป้าได้


ข้อจำกัดการใช้ยามุ่งเป้า
-มีการใช้เฉพาะในมะเร็งบางชนิดเท่านั้น เช่น
*มะเร็งปอดชนิดยีนกลายพันธุ์ EGFR หรือชนิด ALK
*มะเร็งเต้านม หรือมะเร็งกระเพาะอาหารชนิดยีน HER2 amplification
*มะเร็งลำไส้
*มะเร็งจิสต์ (GIST)
*มะเร็งต่อมลูกหมาก
*มะเร็งตับ
*มะเร็งต่อมไทรอยด์
*มะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งต่อมน้ำเหลืองบางชนิด
- ใช้ได้ผลเมื่อตรวจพบการกลายพันธุ์ของยีนเป้าหมายที่จำเพาะเท่านั้น
- ข้อมูลส่วนใหญ่ใช้ในการรักษามะเร็งในระยะแพร่กระจาย
- ยามีราคาสูง มีข้อบ่งชี้ในการเบิกจ่ายได้เฉพาะในบางสิทธิ์การรักษา


หลังจากใช้ยาไประยะหนึ่ง มะเร็งมีโอกาสเกิดการกลายพันธุ์รูปแบบใหม่หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงอื่นๆซึ่งส่งผลให้ดื้อต่อยามุ่งเป้าชนิดเดิมได้

ขอบคุณข้อมูลจาก https://www.gj.mahidol.ac.th/main/targeted-therapy/