
ยา และอาหารบางชนิด ไม่ควรที่จะรับประทานคู่กัน เพราะจะส่งผลกระทบต่อร่างกาย ซึ่งส่วนประกอบของอาหารที่รับประทานจะรบกวนการทํางานของยาที่มีต่อร่างกาย ทําให้ยามีประสิทธิภาพในการรักษาลดลง หรืออาหารที่ทําให้ยาติดค้างอยู่ในร่างกายได้นานขึ้น จนก่อให้เกิดอาการข้างเคียงได้
ยา และอาหารที่ไม่ควรทานคู่กัน
อินซูลิน (Insulin) หรือยารักษาโรคเบาหวาน
- ไม่ควรรับประทานกับ มะระขี้นก ว่านหางจระเข้ โสม แมงลัก ผักเชียงดา
ผลข้างเคียง จะทำให้น้ำตาลลดลงมากเกินไป อาจเกิดอาการหัวใจเต้นเร็ว ปวดศีรษะ สายตาพร่า เหงื่อออกมาก อ่อนเพลีย
ยาลดความดันโลหิต (Nifedipine Felodipine) และ ยาลดไขมันในเลือด (Simvastatin Atorvastatin)
- ไม่ควรรับประทานกับน้ำเกรปฟรุต
ผลข้างเคียง ทำให้ปริมาณยาสูงหลายเท่าในกระแสเลือด อาจส่งผลให้เกิดพิษจากยาได้
ยาละลายลิ่มเลือด หรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด (Aspirin Warfarin)
- ไม่ควรรับประทานกับ น้ำมันปลา แป๊ะก๊วย ตังกุย กระเทียม และขิง
ผลข้างเคียง หากรับประทานในปริมาณมาก จะทำให้เลือดออกง่ายขึ้น
ยาต้านการแข็งตัวของเลือด
-ไม่ควรรับประทานกับ ผักใบเขียว ชาเขียว ถั่วเหลือง และบรอกโคลี
ผลข้างเคียง ทำให้ระดับยาในเลือดไม่เพียงพอต่อการรักษา
ยาปฏิชีวนะกลุ่ม Fluoroquinolone และยาปฏิชีวนะกลุ่ม Tetracycline
-ไม่ควรรับประทานกับ นม และโยเกิร์ต
ผลข้างเคียง ทำให้ยาดูดซึมได้ลดลง ระดับยาในเลือดไม่เพียงพอต่อการรักษา
ยา วิตามินและอาหาร ที่ควรรับประทานร่วมกัน
วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค
- ควรรับประทานคู่กับไขมันจากพืช และไขมันจากสัตว์
เพราะ จะช่วยให้วิตามินดูดซึมได้ดีในร่างกาย
ธาตุเหล็ก
- ควรรับประทานคู่กับ ผลไม้รสเปรี้ยว วิตามินซี
เพราะ จะช่วยให้การดูดซึมธาตุเหล็กดีขึ้น
แคลเซียม
-ควรรับประทานคู่กับอาหารที่มีวิตามินดี เช่น เห็ด นม ปลา และชีส
เพราะ จะช่วยให้แคลเซียมดูดซึมได้ดีขึ้นในลำไส้เล็ก
คอลลาเจนเปปไทด์ ชนิดโมเลกุลเล็ก
-ควรรับประทานคู่กับวิตามินซี
เพราะ จะช่วยเสริมการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนของผิวพรรณ
โคเอนไซม์คิวเท็น
- ควรรับประทานคู่กับไขมันจากพืช และไขมันจากสัตว์
เพราะ จะช่วยให้โคเอนไซม์คิวเท็นดูดซึมได้ดีในร่างกาย
การรับประทานยาที่ถูกวิธี
ยาก่อนอาหาร
-รับประทานยาก่อนรับประทานอาหาร 30-60 นาที ยาที่ให้กินก่อนอาหารมักเป็นยาที่มีข้อจำกัด หากกินลงไปแล้วมีอาหารร่วมอยู่ด้วยในกระเพาะอาหาร จะลดการดูดซึมของยา ทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่ดี หรือไม่ได้ผล
ยาหลังอาหาร
-ควรรับประทานยาหลังประทานอาหารเสร็จแล้ว 15-30 นาที
ยาก่อนนอน
- ควรรับประทานยาก่อนจะเข้านอน 15-30 นาที
การป้องกันการเกิดปฏิกิริยาต่อกันระหว่างอาหาร และยา
- อ่านฉลาก และเอกสารกำกับยา ก่อนรับประทานยา เพื่อศึกษาวิธีการรับประทานยาที่ถูกต้อง หากไม่เข้าใจให้สอบถามจากแพทย์ หรือเภสัชกร
- รับประทานยา พร้อมกับน้ำอุณหภูมิปกติ 1 แก้ว
- ไม่ควรนำยามาผสมกับอาหาร หรือแกะผงยาออกจากแคปซูล เพราะจะมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงในการดูดซึมยา และการกระจายตัวของยาในร่างกาย
- วิตามิน และน้ำแร่จะมีผลต่อการดูดซึมของยา
- ไม่ควรรับประทานยา พร้อมกับเรื่องดื่มแอลกอฮอล์
ทั้งยา และอาหาร ล้วนเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย หากรับประทานร่วมกันโดยไม่ได้ระมัดระวังอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่างๆ ซึ่งเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลเพชรเวช