สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ตระหนักถึงความสำคัญและประโยชน์ของการตรวจคัดกรองค้นหามะเร็งระยะเริ่มแรก จึงได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายผลักดันนโยบายการคัดกรองโรคมะเร็งเพื่อให้ประชากรกลุ่มเป้าหมายสามารถเข้ารับการคัดกรองได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ควบคู่ไปกับการจัดทำสื่อความรู้สำหรับประชาชนและการจัดอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจในการป้องกันและคัดกรองโรคมะเร็งให้กับบุคลากรทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข โดยมีการดำเนินโครงการคัดกรองโรคมะเร็งระดับประชากร ได้แก่
มะเร็งปากมดลูก
การคัดกรองมะเร็งปากมดลูกระดับชาติ ทำการคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยวิธีการตรวจหาเชื้อ HPV (HPV test) ซึ่งเป็นวิธีที่มีความไวในการตรวจมากกว่าวิธี PAP smear เดิม ในสตรีกลุ่มอายุ 30-60 ปี ทั้งแบบเก็บสิ่งส่งตรวจโดยบุคลากรทางการแพทย์ และ เก็บสิ่งส่งตรวจด้วยตนเอง (ซึ่งสามารถไปเก็บในห้องน้ำด้วยตนเองที่สถานพยาบาลหรือที่บ้านแล้วนำมาส่งให้เจ้าหน้าที่) โดยสามารถขอรับบริการได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้านเช่น โรงพยาบาล หรือ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพสต.) โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในทุกสิทธิ์การรักษา เนื่องจากปัจจุบันอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ด้านส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแล้ว
มะเร็งเต้านม
การรณรงค์ให้สตรีไทยตรวจเต้านมด้วยตนเองมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ต่อมาใน ปี พ.ศ. 2556 ได้มีการจัดทำข้อเสนอแนะการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมที่เหมาะสมสำหรับประเทศไทย เพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์มีแนวทางการปฏิบัติที่ชัดเจนยิ่งขึ้น การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ได้แก่ การตรวจเต้านมด้วยตนเอง (breast self-examination: BSE) การตรวจเต้านมโดยแพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ (clinical breast examination: CBE) และการตรวจด้วยเครื่องถ่ายภาพรังสีเต้านม (mammography: MM) แนวทางการคัดกรองที่มีหลักฐานยืนยันว่าสามารถลดอัตราการตายจากมะเร็งเต้านมได้ คือวิธีการตรวจด้วยเครื่องแมมโมแกรม ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาและผลักดันให้เข้าสู่ชุดสิทธิประโยชน์ด้านส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของสำนักงานหลักประกันสุขภาพ
อย่างไรก็ดีปัจจุบันผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่มีประวัติเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมสามารถตรวจหายีนผิดปกติ (BRCA 1 และ BRCA 2) ที่อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งเต้านมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย และ เมื่อพบความผิดปกติสามารถให้ญาติสายตรงมาตรวจว่ามียีนผิดปกติดังกล่าวหรือไม่โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเช่นกันเนื่องจากอยู่ในชุดสิทธิประโยชน์ด้านส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแล้ว เพื่อที่จะสามารถวางแผนป้องกันและติดตามต่อไป ซึ่งสามารถขอรับบริการตรวจยีนดังกล่าวได้ที่สถาบันมะเร็งแห่งชาติ รพ.มะเร็งภูมิภาค และ รพ.ศูนย์ประจำเขตสุขภาพ เป็นต้น
มะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง
โครงการคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่และไส้ตรง ทำการตรวจคัดกรองประชาชนอายุ 50-70 ปี โดยการตรวจหาเลือดแฝงในอุจจาระด้วยวิธี FIT Test ทุกๆ 2 ปี ประชาชนสามารถเข้ารับการตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลหรือโรงพยาบาลใกล้บ้านโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งหากพบผลผิดปกติก็จะวินิจฉัยโรคด้วยการส่องกล้องต่อไป
และเมื่อคัดกรองและได้รับการวินิจฉัยโรคมะเร็งแล้วก็สามารถเข้าสู่การรักษาอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องมีใบส่งตัว ใน รพ.ที่รักษาโรคมะเร็งในเครือข่ายสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกว่า 190 แห่งทั่วประเทศ ผ่านทางโครงการ Cancer Anywhere ตามนโยบายของของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งปัจจุบันใช้ได้กับผู้ป่วยสิทธิ์หลักประกันสุขภาพแห่งชาติซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของประเทศ
ติดตามความรู้ข่าวสารด้านโรคมะเร็งจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ส่งเสริมความรอบรู้สู้ภัยมะเร็ง http://allaboutcancer.nci.go.th/ เว็บไซต์ต่อต้านข่าวปลอมโรคมะเร็ง https://thaicancernews.nci.go.th/_v2/ และ Line : NCIรู้สู้มะเร็ง