6 ช่วงเวลา กับการดื่ม แค่ 'น้ำเปล่า' ก็ช่วยให้สวยได้

การ "ดื่มน้ำ" เป็นสิ่งที่ดีและจำเป็นต่อสุขภาพร่างกาย และน้ำที่เหมาะกับการดื่มเพื่อสุขภาพมากที่สุดก็คือ "น้ำเปล่า" วันนี้เรามีเทคนิคง่าย ๆ สำหรับการดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอและส่งผลดี ต้องดื่มในปริมาณเท่าไหร่ เวลาไหน ลองทำตามรับรองว่าดีต่อร่างกายแน่นอน
                "น้ำ" ถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของร่างกาย คิดเป็น ร้อยละ 60-70 ของน้ำหนักตัว การที่เรา "ดื่มน้ำ" ในแต่ละวันในปริมาณที่ไม่เพียงพอ ย่อมส่งผลเสียต่อระบบการทำงานส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวพรรณที่ดูแห้งไม่เปล่งปลั่งสดใส ระบบการขับถ่ายของเสียในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเหงื่อ ปัสสาวะ อุจจาระ ก็มีผลสืบเนื่องมาจากการดื่มน้ำไม่เพียงพอเช่นกัน ดังนั้น วิธีง่าย ๆ ที่จะแก้ปัญหาเหล่านั้นก็คือ การดื่มน้ำในปริมาณที่เพียงพอนั่นเอง
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าควรดื่มน้ำเท่าไหร่ต่อวัน
               ก่อนหน้านี้เรามักจะได้ยินว่า ให้ดื่มน้ำอย่างน้อย วันละ 7-8 แก้ว หรือเท่ากับ 1.2 -1.5 ลิตร เรื่องนี้มีการแนะนำการคำนวณปริมาณน้ำที่เหมาะสมกับร่างกายของแต่ละคนไว้ โดยใช้น้ำหนักตัว คูณด้วย 30 จะได้ปริมาณน้ำเป็นมิลลิลิตร เช่น น้ำหนักตัว 60 คูณ 30 เท่ากับ 1,800 มิลลิลิตร หรือต้องดื่มน้ำ 1.8 ลิตรต่อวัน
เทคนิคการดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ
               - ก่อนอื่นเลยต้องบอกเลยว่า น้ำดื่ม ควรเป็นน้ำที่สะอาดและที่ดีต่อสุขภาพอย่างยิ่ง ก็คือ "น้ำเปล่า" มิเช่นนั้นแล้ว การดื่มน้ำที่ไม่สะอาด อาจกลายเป็นการนำเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย และน้ำที่เหมาะกับร่างกาย คือ น้ำในอุณหภูมิห้อง เพราะร่างกายไม่ต้องไปปรับสมดุล แต่หากอยู่ในช่วงฤดูร้อน น้ำเย็น จะทำให้เรารู้สึกสดชื่น คลายร้อนได้ แต่ต้องคำนึงไว้เสมอว่า น้ำอุณหภูมิห้องดีต่อสุขภาพมากกว่า

               ส่วนผู้ที่เล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย การดื่มน้ำเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย และควรดื่มน้ำในลักษณะการจิบเล็กน้อย บ่อย ๆ ทุก 15 นาที เพื่อป้องกันสภาวะร่างกายขาดน้ำ
               สำหรับสาว ๆ ที่ต้องการควบคุมปริมาณอาหารที่ทานในแต่ละมื้อ การดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนรับประทานอาหาร 30 นาที จะช่วยให้ทานอาหารในปริมาณที่ลดลงได้ และยังช่วยให้ระบบการย่อยอาหารทำหน้าที่ดีอีกด้วย
เราควรดื่มน้ำในเวลาไหนบ้าง
               1. ดื่มน้ำ 1 แก้ว หลังตื่นนอน ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี หลังจากที่ขาดน้ำมาตลอดทั้งคืน และยังช่วยกระตุ้นการขับถ่ายอีกด้วย
               2. ช่วงสาย ๆ 2-3 แก้ว โดยดื่มน้ำ 1 แก้ว ก่อนทานอาหารเช้า 1 ชม. ไม่ควรดื่มก่อนกินข้าวแบบทันที เพราะจะทำให้น้ำย่อยมีความเจือจางลง ถัดมาประมาณ 1 ชั่วโมง ดื่มน้ำ 1-2 แก้ว เพื่อช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย
               3. ก่อนมื้อเที่ยง 1 ชั่วโมง ให้ดื่มน้ำ ครึ่ง -1 แก้ว และหลังจากทานอาหารเสร็จ ดื่มน้ำอีกเล็กน้อย ไม่ควรดื่มน้ำตามมาก ๆ เพราะจะทำให้น้ำย่อยเจือจาง ส่งผลให้ระบบการย่อยอาหารไม่ดีเท่าที่ควร
               4. บ่าย ดื่มน้ำ 2-3 แก้ว ใช้การจิบระหว่างวันดับกระหาย และเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว โดยเฉพาะผู้ที่นั่งทำงานในห้องแอร์
               5. ก่อนมื้อเย็น ดื่มน้ำอีก 1-2 แก้ว
               6. ก่อนนอน 1 ชั่วโมง ดื่มน้ำ 1 แก้ว ไม่ควรดื่มใกล้เวลานอน เพราะจะทำให้ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำซึ่งเป็นการรบกวนการนอน ยิ่งบางคนเมื่อรู้สึกตัวตื่นแล้วกว่าจะหลับก็แสนจะยากเย็น


ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล :  https://www.komchadluek.net/news/470182#google_vignette