อาบน้ำแร่ แช่น้ำร้อน ทางเลือกบำบัดโรค กระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด

กระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายนำเรื่องสุขภาพมาช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้วยการพัฒนาประเทศให้เป็นศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ซึ่งจังหวัดระนอง มีศักยภาพที่จะพัฒนายกระดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพชั้นนำของโลกได้ จากความโดดเด่นของการมีแหล่ง “น้ำแร่” ที่มีคุณภาพดีเป็นอันดับหนึ่งของประเทศ และติด 1 ใน 3 ของโลก สามารถนำมาใช้บำบัดผู้ป่วยและให้บริการสปา เป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ

การใช้น้ำพุร้อนหรือน้ำแร่ในการบำบัดโรคที่เรียกว่าBalneotherapy เป็นส่วนหนึ่งของการใช้น้ำบำบัดสุขภาพ ซึ่งแร่ธาตุที่มีอยู่ในน้ำมีการละลายตั้งแต่ปริมาณ 0.6-2 g/l หรือมากกว่า หรือมีแร่ธาตุละลายมากกว่า 10 g/l ร่วมกับอุณหภูมิของน้ำระหว่าง 20-40 องศาเซลเซียส ตามแหล่งโรงพยาบาล หรือเส้นทางการท่องเที่ยว เช่น จังหวัดระนองที่มีน้ำแร่ หรือน้ำพุร้อน จึงมักส่งเสริมสุขภาพ รักษา บำบัดฟื้นฟู โดยใช้คุณสมบัติของน้ำช่วยพยุงให้ร่างกายเคลื่อนไหวง่ายขึ้น ลดแรงกระแทกในข้อต่อต่างๆ บรรเทาอาการเจ็บปวด ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และกระตุ้นระบบไหลเวียนเลือด โดยมี ผู้ป่วยอาการปวดเข่า ปวดหลัง ข้อไหล่ติด และโรคหลอดเลือดสมอง เข้ารับบริการ


ทั้งนี้มีข้อควรระวังก่อนลงแช่และอาบน้ำแร่ธรรมชาติ ผู้ที่มีอาการของโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคระบบไหลเวียนเลือด เบาหวาน โรคผิวหนังระยะติดเชื้อ เส้นเลือดขอด เส้นเลือดตีบ และสตรีมีครรภ์ ต้องได้รับคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ก่อนทุกครั้ง, ไม่ควรอาบ หรือ แช่น้ำแร่ร้อนหลังรับประทานอาหาร หรือ ออกกำลังกายทันที ควรเว้นระยะเวลา 30 นาที นอกจากนี้ห้ามดื่มสุรา และของมึนเมาทุกชนิด ห้ามสูบบุหรี่ในบริเวณบ่อน้ำแร่
ว่าง ๆ แวะเที่ยว จังหวัดระนอง อาบน้ำแร่ แช่น้ำร้อน ผ่อนคลายสุขภาพกันนะครับ


กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก