กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคทรวงอก แนะผู้ป่วยโรคหัวใจฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงด้วยการกายภาพบำบัด เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยโรคหัวใจสามารถกลับมาปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้ใกล้เคียงปกติ ป้องกันการเกิดเป็นซ้ำของโรคหัวใจ
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่าการทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจ เป็นบริการสำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจโดยผู้ป่วยจะได้รับการออกแบบโปรแกรมออกกำลังกายและออกกำลังกายภายใต้การติดตามอาการ สัญญาณชีพที่สำคัญ คลื่นไฟฟ้าหัวใจ และ ระดับร้อยละของออกซิเจนในเลือด โดยมีทีมแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู นักกายภาพบำบัดและเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยมีการฟื้นฟูทางร่างกายและจิตใจอย่างถูกต้องและเหมาะสม จากโรคหัวใจประเภทต่างๆ ได้แก่ โรคลิ้นหัวใจรั่วหรือตีบ ภาวะ หัวใจล้มเหลว โรคลิ้นหัวใจรั่วหรือตีบ โรคหัวใจจากความดันโลหิตสูง เพื่อช่วยลดอาการหอบเหนื่อย เพิ่มสมรรถภาพร่างกาย ลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ช่วยป้องกันการเกิดโรคซ้ำ เป็นต้น ทั้งนี้ยังให้ผู้ป่วยทราบและตระหนักถึงปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ได้แก่ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง น้ำหนักตัวที่มากกว่าปกติ การสูบบุหรี่ ทราบถึงข้อห้ามและข้อควรระวังต่างๆ นอกจากนี้ยังมีบทบาทสำคัญในการลดความเครียดและเพิ่มคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้ป่วยโรคหัวใจ
นายแพทย์เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนเข้าร่วมโปรแกรมการฟื้นฟูหัวใจด้วยการกายภาพบำบัด ผู้ป่วยจะได้รับการประเมินสมรรถภาพร่างกายในการออกกำลังกายและกำหนดโปรแกรมการออกกำลังกายที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยโรคหัวใจสามารถกลับมาปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้เหมือนปกติ ป้องกันการเกิดซ้ำของโรคหัวใจ ช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจให้กลับมาใกล้เคียงกับก่อนป่วยมากที่สุด โดยไม่เพียงคำนึงถึงสภาพหัวใจของผู้เข้ารับการฟื้นฟูเท่านั้น แต่ยังใส่ใจต่อปัจจัยเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยแต่ละคนด้วย ในการทำกายภาพบำบัดผู้ป่วยควรแจ้งข้อมูลสุขภาพตามความเป็นจริง ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ และนักกายภาพบำบัดอย่างเคร่งครัด ถ้ามีอาการผิดปกติทางร่างกายเกิดขึ้นเช่น เวียนศีรษะ หน้ามืด ใจสั่น ทั้งก่อนออกกำลัง ระหว่างหรือหลังการออกกำลังกายตามโปรแกรม และเมื่อกลับถึงบ้านไม่ควรออกกำลังกายหลังรับประทานอาหารทันที และหลีกเลี่ยงดื่มแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่และไม่ควรออกกำลังกายขณะรู้สึกไม่สบายหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ