แอสไพริน (aspirin) เป็นยาที่ถูกใช้มาเป็นเวลานาน มีประสิทธิภาพในการรักษาดีและมีฤทธิ์ในการรักษาที่ใช้ได้กับหลายโรค ซึ่งทำให้มีผู้ใช้ยาชนิดนี้เป็นจำนวนมาก วันนี้ อย. จะพามาทำความรู้จักกับยาแอสไพริน และข้อควรระวังในการใช้ยาแอสไพรินกัน
ในปัจจุบัน ยาแอสไพรินมี 2 ข้อบ่งใช้ คือ
1. บรรเทาอาการปวด อักเสบและลดไข้
2. ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด
ซึ่งขนาดยาที่ใช้และวิธีการรับประทานยาแตกต่างกัน โดยการใช้เพื่อบรรเทาอาการปวด อักเสบ และลดไข้ ขนาดยาที่ใช้จะเป็นขนาดยาที่สูง คือ 325-650 มิลลิกรัม รับประทานทุก 4-6 ชั่วโมง และใช้เฉพาะเมื่อมีอาการเท่านั้น สำหรับการใช้ยาเพื่อฤทธิ์ต้านการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด ขนาดยาที่ใช้จะเป็นขนาดที่ต่ำ คือ 81 มิลลิกรัม และต้องรับประทานอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเกิดการอุดตันของหลอดเลือด ถือเป็นยาควบคุมพิเศษที่ต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น
อาการข้างเคียงของยาแอสไพริน ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดมวนท้อง ระคายเคืองกระเพาะอาหาร หลอดลมตีบ โรคหืดกำเริบ เลือดออกผิดปกติ ผื่นลมพิษ หากอาการรุนแรง ควรรีบไปพบแพทย์โดยทันที
ข้อควรระวังในการใช้ยาแอสไพริน
- ระวังการใช้ยาในผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเลือดออก เช่น ผู้ป่วยโรคเลือดออกผิดปกติ ผู้ที่กำลังจะเข้ารับการผ่าตัดหรือถอนฟัน ต้องแจ้งให้แพทย์หรือทันตแพทย์ทราบว่ากำลังกินแอสไพรินอยู่
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างรับประทานยาแอสไพริน เนื่องจากเพิ่มความเสี่ยงของอาการเลือดออกผิดปกติ
- หลีกเลี่ยงการใช้ในผู้ป่วยโรคหืด เพราะยาจะไปหดหลอดลม ส่งผลให้โรคหืดกำเริบ
- หลีกเลี่ยงการใช้ในสตรีมีครรภ์ เนื่องจากส่งผลต่อทารกในครรภ์ โดยเฉพาะไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์
- ควรรับประทานยาหลังอาหารทันที เนื่องจากมีผลการระคายเคืองกระเพาะอาหาร
- ไม่ควรหักแบ่งยา เพราะตัวยาที่ถูกเคลือบไว้จะถูกปลดปล่อยออกมาและระคายเคืองกระเพาะอาหาร
- ไม่ควรเก็บยาในตู้เย็นหรือในที่ที่มีความชื้นสูง เพราะจะทำให้ยาเกิดการสลายตัว และทำให้เกิดพิษได้
ข้อมูลอ้างอิง
แอสไพริน ยาธรรมดา...ที่ไม่ธรรมดา หากใช้ต้องระวัง !!
ยาแอสไพริน ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดสมอง
บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชน แอสไพริน (aspirin)
ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม เผย การแช่ยาเม็ดแอสไพรินในตู้เย็น ทำให้เกิดเป็นสารพิษขึ้นได้ พร้อมแนะ ควรอ่านวิธีการเก็บรักษาให้เหมาะสม
Aspirin กับโรคหลอดเลือดสมอง ซื้อกินเองได้หรือไม่