มะเขือเทศ ผักสีแดงสดที่หลายคนรู้จักกันดี อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย โดยเฉพาะไลโคปีน สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายประการ เช่น ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง โรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมอง
อย่างไรก็ตามมะเขือเทศไม่ควรรับประทานสดเนื่องจากไลโคปีนในมะเขือเทศสดจะอยู่ในรูปที่ร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้ดี
ไลโคปีนคืออะไร
ไลโคปีนเป็นสารแคโรทีนอยด์ชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคต่างๆ เช่น
* โรคมะเร็ง: ไลโคปีนมีส่วนช่วยในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งปอด มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งผิวหนัง
* โรคหัวใจ: ไลโคปีนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) และเพิ่มระดับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
* โรคหลอดเลือดสมอง: ไลโคปีนมีส่วนช่วยในการป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง
วิธีทานมะเขือเทศที่ถูกต้อง
แม้ว่ามะเขือเทศสดจะไม่ควรรับประทาน แต่เรายังสามารถรับประทานมะเขือเทศเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากไลโคปีนได้ โดยมีวิธีการ ดังนี้
- รับประทานมะเขือเทศผ่านความร้อน การผ่านความร้อนจะช่วยให้ไลโคปีนเปลี่ยนรูปร่าง ทำให้ร่างกายดูดซึมได้ดีขึ้น ตัวอย่างเช่น นำมะเขือเทศไปต้ม ผัด อบ หรือย่าง
- รับประทานมะเขือเทศสุก มะเขือเทศสุก (ไม่สุกจนเกินไป)จะมีไลโคปีนมากกว่ามะเขือเทศดิบ
- รับประทานมะเขือเทศพร้อมกับน้ำมัน ไลโคปีนเป็นสารละลายในไขมัน การรับประทานมะเขือเทศพร้อมกับน้ำมันจะช่วยให้ร่างกายดูดซึมไลโคปีนได้ดีขึ้น
สรุป
มะเขือเทศเป็นผักที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ไม่ควรรับประทานสด ควรผ่านความร้อนหรือรับประทานมะเขือเทศสุก เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมไลโคปีนได้ดี
ข้อมูลจาก
ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น