รพ.เมตตาฯ(วัดไร่ขิง) เตือนการกินเมทานอล ทำให้ตาพร่ามัว การมองเห็นภาพซ้อน สูญเสียการมองเห็น ในกรณีที่รุนแรงอาจถึงขั้นตาบอดถาวร และอาจนำไปสู่ภาวะที่เป็นอันตรายถึงชีวิต การรักษาที่รวดเร็วและเหมาะสมสามารถลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตและการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงได้
นายแพทย์อาคม ชัยวีระวัฒนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) กล่าวว่า เมทานอลเป็นแอลกอฮอล์ที่ไม่มีสีและไม่มีกลิ่นที่ใช้ในอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท เช่น ในการผลิตเชื้อเพลิง สี และสารเคมี อย่างไรก็ตาม เมทานอลไม่ใช่แอลกอฮอล์ที่สามารถบริโภคได้ และการกินเมทานอลซึ่งมักพบในสุราปลอม, เหล้าเถื่อน จะนำไปสู่ความเป็นพิษที่เป็นอันตรายสูญเสียดวงตา หรือแม้แต่ชีวิต เมื่อเมทานอลเข้าสู่ร่างกาย มันจะถูกเมแทบอลิซึมในตับผ่านเอนไซม์ alcohol dehydrogenase เปลี่ยนเป็นฟอร์มัลดีไฮด์ (Formaldehyde) ซึ่งมีความเป็นพิษสูง และจากนั้นฟอร์มัลดีไฮด์จะถูกเปลี่ยนเป็นฟอร์มิกแอซิด (Formic acid) ฟอร์มิกแอซิดเป็นสารที่มีผลทำลายเซลล์ในระบบต่าง ๆ ของร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาทและระบบการหายใจ
แพทย์หญิงวรินทร์ สมิทธิเมธินทร์ จักษุแพทย์ด้านจอตาและวุ้นตา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า อาการจากการทานจาก เมทานอลแอลกอฮอล์แล้วเกิดพิษอาจใช้เวลา 1 ชั่วโมง ถึง 3 วัน อาการจะปรากฏ ซึ่งอาการที่พบได้บ่อยคือ อาการปวดหัว เวียนศีรษะ สับสน และชัก ตาพร่ามัว เห็นภาพซ้อน สูญเสียการมองเห็น และในกรณีที่รุนแรงอาจถึงขั้นตาบอดถาวร หายใจลำบาก ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน ภาวะเลือดเป็นกรด (Metabolic acidosis) เป็นภาวะที่มีความเป็นกรดในเลือดสูงจากการสะสมของฟอร์มิกแอซิด ซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ จะต้องได้รับการวินิจฉัยอย่างรวดเร็ว โดยแพทย์จะพิจารณาจากประวัติการบริโภคสาร ประวัติอาการ การตรวจร่างกาย และการตรวจระดับเมทานอลและสารเมแทบอลิซึมในเลือด นอกจากนี้ การตรวจความเป็นกรด-ด่างในเลือด และการตรวจระดับเกลือแร่ในเลือดก็เป็นสิ่งสำคัญในการประเมินภาวะของผู้ป่วย การรักษาพิษจากเมทานอลเป็นกระบวนการที่ต้องทำโดยทันทีเพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นต่อระบบประสาทและระบบอื่น ๆ ของร่างกาย เช่นการให้ยาลดความเป็นพิษของเมทานอล การฟอกไต การให้กรดโฟลิค เป็นต้น การป้องกัน เก็บสารเคมีที่มีเมทานอลในที่ที่ปลอดภัยและไม่สามารถเข้าถึงได้ง่าย ระวังในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไม่มีฉลากหรือไม่ได้รับการรับรองก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะอาจมีการเจือปนเมทานอลโดยไม่ได้ตั้งใจ ควรรีบพบแพทย์ทันทีการรักษาที่รวดเร็วและเหมาะสมสามารถลดความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงหรืออันตรายต่อการเสียชีวิต
2 กันยายน 2567