7 ประโยชน์ของการนวด และข้อควรระวังที่คุณควรรู้

หลายคนมองเห็นว่าการนวดมีประโยชน์ที่สามารถช่วยให้ร่างกายและกล้ามเนื้อเกิดความผ่อนคลาย ยิ่งถ้าเป็นพนักงานออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานท่าเดิมๆ นานกว่า 8 ชั่วโมงติดต่อกัน อาการเจ็บปวดกล้ามเนื้อบริเวณคอ บ่า ไหล่และหลังก็เริ่มมาเยือน ทำให้ในแต่ละเดือนต้องแห่แหนเข้าร้านนวดเพื่อให้ร่างกายได้กลับมาทำงานอย่างเต็มที่ ถึงอย่างไรก็ตามแม้ประโยชน์ของการนวดจะมีข้อดีหลายข้อไม่ว่าจะเป็นการผ่อนคลายความเคลียด ไปจนถึงคลายกล้ามเนื้อ แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีข้อควรระวังในการนวดหลายประเด็นที่ต้องตรวจเช็กก่อนเข้ารับการนวดอีกครั้ง


เลือกประเภทการนวดที่ชอบ
ประเภทของการนวดมีหลากหลายแบบ และการนวดแต่ละแบบนั้นขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน เช่น หากคุณชอบการนวดที่ใช้แรงกดเยอะๆ นวดแผนไทยจึงเหมาะมากๆ หรือถ้ากลัวเจ็บจากแรงกดการนวดผ่อนคลายแบบนวดสวีดิชก็บรรเทาอาการเจ็บปวดของร่างกายได้เช่นกัน และประโยชน์ของการนวดนั้นก็จะแตกต่างกันไปตามประเภทของการนวดอีกด้วย
• นวดแผนไทย
การนวดแผนไทยเป็นการนวดในลักษณะของการกด คลึง บีบ ดัดและดึง ซึ่งขั้นตอนการนวดเหล่านี้จะช่วยให้บริเวณกล้ามเนื้อที่ตึงได้ผ่อนคลาย และยังสามารถช่วยรักษาบรรเทาโรคต่างๆ ได้อีกด้วย การนวดแผนไทยสามารถนวดได้ทั่วทั้งร่างกาย แต่จุดที่มักนิยมจะเป็นช่วงคอ บ่า ไหล่ และเท้า ทั้งนี้ การนวดจะใช้แรงกดค่อนข้างเยอะ และทำการคลึงไปยังบริเวณนั้นๆ เพื่อให้กล้ามเนื้อที่ตึง แข็งมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ข้อควรระวังในการนวดแผนไทยคือ การนวดที่ใช้แรงกดค่อนข้างเยอะ จึงไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบนวดสบายๆ เบาๆ
• นวดน้ำมันอโรมาเทอราพี
คนที่ชอบความละมุน อ่อนโยน ผ่อนคลายแบบสบายๆ เหมาะกับการนวดน้ำมันอโรมาเทอราพี เพราะเป็นการนวดที่ผสมผสานความอ่อนโยนด้วยการคลึงและบีบเบาๆ พร้อมกับลงน้ำมันหอมระเหยที่แผ่นหลัง ต้นคอ ศีรษะ หรือบางกรณีจะลงที่แขนและขา กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยจะค่อยๆ ซึมเข้าสู่ผิวในขณะที่ทำการนวด ทำให้สมองรู้สึกผ่อนคลาย สามารถลดความเครียด ความวิตกกังวล ทั้งนี้ คุณยังสามารถเลือกกลิ่นน้ำมันหอมระเหยที่ชอบได้อีกด้วย
• นวดสปอร์ต
การนวดสปอร์ตเป็นการนวดที่เหมาะกับผู้ที่เล่นกีฬาและใช้กล้ามเนื้ออย่างหนัก จนกล้ามเนื้อของร่างกายมีอาการบาดเจ็บ โดยการนวดจะเป็นในลักษณะที่ไม่กดลงไปตามจุดของร่างกายเพียงจุดใดจุดหนึ่ง แต่จะใช้แรงกดลงไปด้วยน้ำหนักในวงกว้างสลับกับจังหวะที่ทำให้ผ่อนคลาย มีการนำเทคนิคเคาะ เขย่าหรือยืดกล้ามเนื้อมาใช้เพิ่มเติม ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อ และบรรเทาอาการเจ็บปวดต่างๆ
• นวดชิอัตสึ
นวดผ่อนคลายในแบบฉบับญี่ปุ่น โดยลักษณะการนวดที่จะใช้ฝ่ามือ ปลายนิ้วหัวแม่มือกดเพื่อเน้นไปตามจุดต่างๆ ของร่างกาย ประโยชน์ของการนวดชิอัตสึ คือ ช่วยทำให้ระบบการไหลเวียนดีขึ้น รวมทั้งอาการปวดต่างๆ จะดีขึ้นตามลำดับ ซึ่งก็อาจจะมีความคล้ายคลึงกับการนวดแผนไทยไม่น้อย แต่จุดที่แตกต่างกันคือ การนวดชิอัตสึจะเป็นการสร้างความบาลานซ์ภายใน และเป็นการนวดที่กระตุ้นให้ร่างกายได้ฟื้นฟูระบบต่างๆ
• นวดดีพทิชชู
น้ำหนักค่อนข้างเยอะในการกดลงไปตามร่างกายแล้วใช้นิ้วหัวแม่มือ ฝ่ามือรูดไปตามเส้นนั้นๆ อย่างช้าๆ อาจจะมีการใช้ข้อศอกกดลงไปด้วยในบ้างครั้ง เพื่อเป็นการช่วยให้กล้ามเนื้อยืดหยุ่นผ่อนคลาย และลดความตึงเครียด
• นวดสวีดิช
สไตล์การนวดสวีดิชที่โด่งดังมาจากฝั่งยุโรปและมีวิธีการนวดที่คล้ายคลึงกับการนวดอโรมาเทอราพี เพื่อช่วยให้ร่างกาย จิตใจรู้สึกผ่อนคลาย ทั้งนี้ นักบำบัดจะลงน้ำหนักนวดด้วยแรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้ผู้ที่ได้รับการนวดไม่รู้สึกเจ็บมากจนเกินไป เหมาะกับผู้ที่มีอาการออฟฟิศซินโดรมหรือผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ แต่การนวดแบบสวีดีชจะไม่ใช้น้ำมันหอมระเหยซึ่งจะต่างกับการนวดแบบอโรมาเทอราพี
• นวดกดจุดสะท้อนเท้า
ประโยชน์ของการนวดเฉพาะจุดอย่างฝ่าเท้าก็สามารถสร้างความผ่อนคลายได้ไม่น้อย ยิ่งหากคุณเป็นคนที่ต้องเดินนาน ยืนทั้งวัน การนวดกดจุดสะท้อนเท้าจะตอบโจทย์เป็นอย่างมาก โดยรูปแบบการนวดนักบำบัดจะใช้นิ้วหรือข้อมือกดลงไปยังเส้นประสาทที่เท้า ซึ่งเป็นจุดที่เชื่อมโยงกับอวัยวะอื่นๆ ในร่างกาย เช่น สมองส่วนหน้า ไต ไส้ติ่ง หู และอีกหลายส่วน ส่งผลให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ปรับฮอร์โมนร่างกายให้เป็นปกติ บรรเทาอาการเมื่อยเท้า
• นวดสำหรับคนท้อง
คนท้องหลายคนมีอาการปวดเมื่อยและไม่มั่นใจว่าสามารถเข้ารับการนวดได้หรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าสามารถนวดได้แต่ต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญในการนวดให้คนท้องเท่านั้น และการนวดก็ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อรักษาอาการเจ็บปวด แต่เพียงนวดเพื่อสร้างความผ่อนคลาย ทั้งนี้ ยังมีข้อควรระวังว่าก่อนได้รับการนวด คุณต้องขอคำปรึกษากับทางนักบำบัดอีกครั้ง เพื่อทำการสอบถามประวัติในเบื้องต้น

ประโยชน์ของการนวดที่ควรรู้
ประโยชน์ของการนวดนอกจากจะช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายได้แล้ว ยังมีอีกหลายประเด็นที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะทำการลงในรายละเอียดแต่ละข้อดังนี้
1. กระตุ้นการทำงานของกล้ามเนื้อ
หลังจากที่ได้ใช้กล้ามเนื้ออย่างหนักเป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬาหรือแม้แต่การนั่งทำงาน กล้ามเนื้อช่วงไหล่และคอจะเป็นจุดที่สามารถเกิดอาการเส้นตึงได้ง่าย ยิ่งถ้านั่งไม่ถูกวิธีจะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังและแสดงอาการปวดออกมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งหากคุณได้รับการนวดกล้ามเนื้อ จุดที่ตึงจะถูกกระตุ้นจนเกิดความยืดหยุ่น และยังสามารถลดอาการปวดบริเวณนั้นๆ ได้
2. ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย
ด้วยความเครียดและปัจจัยต่างๆ ในการทำงานส่งผลให้ร่างกายและจิตใจต้องคอยแบกรับความตึงเครียดอยู่ตลอดเวลา จนมีอาการปวดตามร่างกาย เช่น อาการปวดขมับ ท้ายทอย หรือปวดตา เป็นต้น ดังนั้น การนวดที่ต้องคลึงและบีบเบาๆ ไปตามรอยเส้นและกล้ามเนื้อบวกกับมีกลิ่นหอมของน้ำมันระเหยในการนวด จะทำให้รู้สึกสดชื่น สุขภาพจิตดี สามารถช่วยให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย สบายตัว และคลายเครียดได้
3. การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
ประโยชน์ของการนวดที่กระตุ้นระบบการทำงานของเลือดให้สามารถไหลเวียนได้ดีขึ้นทั่วทั้งร่างกาย ยังส่งผลต่อการทำงานของระบบน้ำเหลืองให้มีการหมุนเวียนที่ดีขึ้น และเมื่อทั้ง 2 อย่างได้รับการกระตุ้นจากการนวด จะทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายแข็งแรง ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่ง และช่วยขับของเสียออกจากร่างกาย พร้อมทั้งรักษาสมดุลของน้ำ
4. บรรเทาอาการปวดตามร่างกาย
อาการเจ็บปวดตามร่างกายสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย แม้ว่าคนอายุน้อยก็เกิดอาการเช่นนี้ได้ สาเหตุอาจจะมาจากการนั่งที่ผิดท่า เช่น การนั่งเก้าอี้ที่ไม่รองรับสรีระของร่างกาย การนั่งหลังค่อม หรือผู้ที่ต้องยืน เดินเป็นเวลานานจะเกิดอาการปวดบริเวณเท้า ปวดช่วงขา และเพื่อบรรเทาอาการปวดตามร่างกาย ทำให้หลายคนเลือกที่จะเข้ารับการนวดเพราะสามารถช่วยลดอาการปวดได้ดี
5. ปรับเปลี่ยนสมดุลภายใน
การนวดเพื่อกระตุ้นและปรับการทำงานของอวัยวะภายใน ช่วยให้การทำงานของเส้นประสาทและระบบต่างๆ ดีขึ้น เลี่ยงปัญหาอาการเจ็บปวดตามข้อ กล้ามเนื้อ ข้อต่อ เส้นเอ็น ทำให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้น และไม่มีอาการเจ็บปวดที่กล้ามเนื้อ
6. ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพของร่างกาย
ภาวะเสื่อมสภาพของร่างกายเกิดขึ้นได้หลังจากการทำงานหนัก อาการเครียด และส่งผลในระยะยาวทำให้ร่างกายอ่อนแอ เจ็บป่วยได้ง่าย ภูมิต้านทานไม่ดี ทั้งนี้ การนวดจะช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟูอย่างเต็มที่ และสำหรับผู้ที่เล่นกีฬา หรือผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตก็สามารถช่วยให้สมรรถภาพของร่างกายดีขึ้น ลดอาการกล้ามเนื้อเกร็งได้
7. ช่วยให้การนอนหลับดีขึ้น
ปัญหานอนหลับยากหรือเกิดอาการนอนไม่หลับบ่อยๆ จะดีขึ้นหากได้รับการนวดที่ถูกวิธี โดยรูปแบบของการนวดที่สามารถช่วยให้นอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นการนวดเพื่อสร้างความผ่อนคลาย เช่น การนวดน้ำมันอโรมาเทอราพี การนวดสวีดิช เป็นต้น แต่ทั้งนี้ ก็ยังมีการนวดที่นิยมเหมาะสำหรับคนที่หลับยาก คือ การนวดกดจุดบนใบหน้า เพราะบนใบหน้าจะมีต่อมไพเนียลอยู่ระหว่างหัวคิ้ว เมื่อกดลงไปจะไปกระตุ้นสารโมนเมลาโทนิน สามารถช่วยให้หลับสบายมากยิ่งขึ้น


ข้อควรระวังและความเสี่ยงในการนวด
แม้ว่าประโยชน์ของการนวดนั้นจะช่วยให้ร่างกายรู้สึกผ่อนคลาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าการนวดจะเหมาะกับสุขภาพร่างกายของทุกคน เพราะยังพบว่าในบางกลุ่มที่มีอาการดังต่อไปนี้ ควรรู้ข้อควรระวังในการนวด เนื่องจากสามารถทำให้เกิดอันตรายหรือส่งผลเสียต่อสุขภาพได้
• ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวร้ายแรง
ข้อควรระวังในการนวดที่สำคัญสำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดัน โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือด เป็นต้น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคความดัน เมื่อได้รับแรงกดหนักๆ ตามเส้นของร่างกายจะส่งผลให้ความดันขึ้นจนเส้นเลือดในสมองแตกได้ หรือผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวาน เมื่อเข้ารับการนวดอาจจะเกิดแผลฟกซ้ำ ดำเขียว เสี่ยงต่อการเกิดแผลได้ง่าย
• ผู้ป่วยที่มีโรคมะเร็งทุกชนิด
ผู้ที่เป็นมะเร็งไม่ควรเข้ารับการนวด เพราะจะทำให้เซลล์มะเร็งกระจายตัวได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สาเหตุที่เซลล์กระจายตัวได้เร็วขึ้นมาจากการกด รูด คลึงไปตามเส้นและกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เซลล์มะเร็งสามารถกระจายเข้าไปยังเส้นเลือดและน้ำเหลืองได้ ผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งทุกชนิดก่อนการนวดจึงควรขอคำปรึกษาจากแพทย์อีกครั้ง
• ผู้ป่วยกระดูกพรุน
ข้อควรระวังในการนวดก่อนเข้ารับบริการ ควรตรวจสอบอีกครั้งว่าคุณไม่ได้เป็นผู้ป่วยโรคกระดูกพรุน เพราะถ้าผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนได้รับการนวดอาจจะทำให้กระดูกหักหรือบาดเจ็บสาหัส โดยเฉพาะการนวดบริเวณต้นคอ สันหลัง ซี่โครง เป็นจุดที่ต้องระวัง รวมทั้งผู้ป่วยที่มีปัญหาเรื่องข้อต่อหลวมหรืออาการเจ็บตามข้อก็ไม่ควรได้รับการนวดเช่นกัน
• สตรีมีครรภ์ สตรีมีประจำเดือน
สาเหตุที่สตรีมีครรภ์ไม่ควรได้รับการนวดเพราะอาจจะมีผลต่อลูกน้อยในครรภ์ ซึ่งหากได้รับการนวดที่ไม่ถูกวิธีหรือถูกประเภท เช่น การนวดแผนไทย หรือการนวดสะท้อนจุด อาจจะเกิดอาการแท้งลูกได้ หรือผู้ที่มีประจำเดือนอยู่ในขณะนั้นเมื่อได้รับการนวดจะเกิดไข้ทับระดู เนื่องจากการนวดส่งผลให้เลือดออกผิดปกติซึ่งเกิดจากการแปรปรวนภายในร่างกาย
• ผู้ที่มีปัญหาเลือดไม่แข็งตัว
สำหรับผู้ที่มีปัญหาเลือดไม่แข็งตัว เช่น โรคฮีโมฟีเลีย ควรหลีกเลี่ยงการนวด เพราะการนวดช่วยให้เลือดหมุนเวียนดีขึ้น และปรับอุณหภูมิสมดุลต่างๆ ภายในร่างกาย อาจจะทำให้ผู้ที่มีปัญหาเลือดไม่แข็งตัวเกิดอาการเลือดออกภายในตามจุดต่างๆ เช่น ใต้ผิวหนัง กล้ามเนื้อ จนเกิดอาการช็อกและถึงขั้นเสียชีวิตได้
• ผู้ที่มีปัญหากับกระดูกสันหลัง
แม้ว่าการนวดจะสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้ แต่คุณจำเป็นต้องรู้ว่าอาการปวดหลังนั้นมาจากสาเหตุใด หากเป็นอาการปวดหลังที่เกิดจากการบาดเจ็บทางกระดูก การนวดจะไม่สามารถช่วยได้ และยังเกิดอันตรายต่อสุขภาพอีกด้วย เพราะวิธีการนวดที่เน้นแรงหนักบีบ กดไปยังบริเวณที่ปวด ทำให้กระดูกสันหลังเคลื่อนหรือข้อกระดูกสันหลังอักเสบได้
• ผู้ป่วยที่มีไข้สูงและป่วยติดเชื้อ
ข้อควรระวังในการนวดขณะที่เป็นไข้สูง มีอาการติดเชื้อทางร่างกายหรือผิวหนัง เช่น โรคอีสุกอีใส โรควัณโรค ควรทำการรักษาให้หายขาดก่อนที่จะเข้ารับการนวด เพื่อความปลอดภัยของคุณเองและนักบำบัด รวมทั้งหากคุณได้รับการผ่าตัดมาเมื่อไม่มานานก็ไม่ควรเข้ารับการนวด เพราะอาจจะเกิดอาการแผลฉีกขาดจากการกดทับได้
• ผู้ป่วยกระดูกหัก
ถึงแม้ว่าในอดีตเคยมีประวัติกระดูกหักและทำการรักษาหายแล้ว หรือเป็นผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคกระดูก ก็ไม่ควรเข้ารับการนวด เพราะอาจจะเกิดอาการกระดูกเคลื่อน กระดูกปริ หรือกระดูกร้าวได้ และผู้ที่มีอาการบาดเจ็บที่กระดูกจะเกิดภาวะลิ่มเลือดได้ง่ายกว่า หากได้รับการนวดจะมีอาการลิ่มเลือดอุดตันในเส้นเลือดทันที จึงควรหลีกเลี่ยงการนวดโดยเด็ดขาด
• ผู้ที่บาดเจ็บจากการเล่นกีฬา
หากมีอาการบาดเจ็บร้ายแรง มีรอยช้ำ เจ็บที่เส้นเอ็นหรือเป็นแผลจากการเล่นกีฬา การตัดสินใจไปนวดจะเกิดอันตรายได้และยังทำให้ร่างกายเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น สิ่งที่ควรทำ คือ การพักฟื้นร่างกายในช่วง 1-2 อาทิตย์ ก่อนเพื่อรอดูอาการ เมื่ออาการดีขึ้นคุณก็สามารถเข้ารับการนวดได้ แต่หากอาการแย่ลงหรือไม่ดีขึ้นควรไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษา


แนะนำวิธีการเลือกร้านนวดอย่างไรให้ปลอดภัย
อีกหนึ่งข้อควรระวังในการนวด คือ การเลือกร้านนวดอย่างไรให้ปลอดภัย เพื่อให้ได้รับประโยชน์ของการนวดและไม่เกิดอันตราย คุณจึงจำเป็นต้องเลือกร้านนวดที่น่าเชื่อถือ ภายในร้านต้องโล่งโปร่ง ไม่แออัด มีอุปกรณ์ที่ดูสะอาด ปลอดภัย พร้อมทั้งเลือกร้านที่มีการทำแบบประเมินสุขภาพก่อนการนวด เพื่อให้นักบำบัดทราบว่าคุณมีปัญหาสุขภาพใดๆ หรือไม่ ทั้งนี้ คุณสามารถตรวจสอบร้านนวดที่ให้บริการว่ามีมาตรฐานตรงตามกฎหมายโดยดูจากประกาศนียบัตรตามหลักสูตรที่ สบส. ให้การรับรองและการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการ


ไม่ว่าจะเป็นการนวดแผนไทย การนวดน้ำมันอโรมาเทอราพี หรือการนวดแบบอื่นๆ ประโยชน์ของการนวดหลักๆ ก็สามารถช่วยให้ร่างกายได้ฟื้นฟูหลังจากอาการเจ็บปวดและทำให้จิตใจผ่อนคลาย ถึงอย่างไรก็ตาม ยังมีข้อควรระวังในการนวดที่คุณควรทำการศึกษาตรวจเช็กสุขภาพของตัวเองก่อนเข้ารับการนวดอีกครั้ง เพื่อเป็นการป้องกันอันตรายจากการนวดได้

 


ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล https://www.charnveeresortkhaoyai.com/th/health-benefits-massage