นักวิจัยอเมริกันแสดงข้อมูลยืนยันว่า คลื่นความร้อน หรือ Heat Waves ส่งผลร้ายแรงต่อสุขภาพของผู้ใหญ่ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และทำให้เกิดการเจ็บป่วยรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
JAMA Health Forum วารสารการแพทย์ออนไลน์เผยแพร่รายงานของ ดร. Hyunjee Kim จาก Oregon Health & Science University ในเมืองพอร์ตแลนด์ เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ.2024 หลังจากที่ทีมวิจัยของเขารวบรวมข้อมูลของผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ทั้งหมด 5,448,499 คน ใน 50 รัฐและกรุงวอชิงตัน ดีซี ตั้งแต่ปี 2016 ถึง 2019 และได้ข้อสรุปเกี่ยวกับผลกระทบของคลื่นความร้อนต่อสุขภาพของคนเหล่านั้น เมื่อเปรียบเทียบช่วงเวลาที่เกิดคลื่นความร้อนติดต่อกัน 3 วันขึ้นไปกับช่วงเวลาที่อากาศปกติ นักวิจัยพบว่า อัตราอุบัติการณ์ของการเข้ารับการรักษาในแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลสูงขึ้นในช่วงที่เกิดคลื่นความร้อน โดยอยู่ที่อัตราส่วน 1.10 และ 1.07 ตามลำดับ ส่วนเหตุไม่พึงประสงค์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับสุขภาพก็มีอัตราใกล้เคียงกัน รวมทั้งการเสียชีวิตในช่วงที่อากาศร้อนจัด โดยอัตราส่วนของอุบัติการณ์อยู่ที่ 1.04 โดยพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดอยู่ในแถบตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือ รวมทั้งแถบหุบเขาโอไฮโอ
ในช่วง 45 ปีที่ผ่านมา มีชาวอเมริกันเสียชีวิตจากคลื่นความร้อนประมาณ 14,000 คน ส่วนข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) รายงานว่า เฉพาะปี ค.ศ.2022 มีประชาชนในสหรัฐฯ เสียชีวิตจากคลื่นความร้อนถึง 1,714 คน กลุ่มเปราะบางที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ กลุ่มผู้สูงวัย เด็กอายุน้อย และผู้ที่มีอาการป่วยทางจิตและโรคเรื้อรัง รัฐบาลสหรัฐฯ จึงจำเป็นต้องหากลยุทธ์รับมือกับปัญหาคลื่นความร้อนที่รุนแรงและยืดเยื้อให้ดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อลดอัตราผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตลง ท่ามกลางสถานการณ์โลกเดือด (Global Boiling) ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นทุกขณะ
แหล่งที่มาของข้อมูล https://www.msn.com/en-us/health/other/heat-waves-linked-to-adverse-health-outcomes-for-seniors/ar-AA1tME2P