สำเร็จแล้ว คนไทยมีเฮ เปิดตัวแอปพลิเคชันแรกในไทย EarTest by Eartone ตรวจการได้ยินบ่งชี้โรคสมองเสื่อม รองรับสังคมสูงวัย โดยทีมวิจัย ไทย-อังกฤษ หลายภาคส่วนร่วมกันผลักดันจนสำเร็จ
องค์การอนามัยโลกทำการศึกษาความเสี่ยงการเกิดโรคสมองเสื่อมมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา พบว่า โดยมากผู้ที่มีปัญหาการได้ยินจะมีความเสี่ยงภาวะสมองเสื่อมเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า และพบว่าความเสี่ยงในการเกิดภาวะสมองเสื่อมนี้จะหายไป ถ้าได้รับการดูแลและรักษาปัญหาด้านการได้ยินจนหายเป็นปกติ จึงนับได้ว่าภาวะสมองเสื่อมที่เกิดจากปัญหาการได้ยินเป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้ อย่างไรก็ตาม การตรวจการได้ยินนั้นจำเป็นต้องใช้ห้องตรวจราคาแพงและมีจำกัดเฉพาะในโรงพยาบาลใหญ่ ๆ เท่านั้น ทำให้การตรวจเพื่อป้องกันนี้ทำได้โดยจำกัด
แอปพลิเคชัน EarTest by Eartone (ฉบับภาษาไทย) ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่ อ.ดร.พญ.นัตวรรณ อุทุมพฤกษ์พร แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการได้ยิน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ร่วมกับ ผศ.ดร.ยุทธนา รุ่งธรรมสกุล อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์ การได้ยิน คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้คิดค้น วิจัยและพัฒนา แอปพลิเคชัน Eartest by Eartone ซึ่งได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการให้ประชาชนที่มีความเสี่ยงจากปัญหาการได้ยิน สามารถตรวจคัดกรองได้ด้วยตนเองที่บ้าน ฟรี ผ่านเสียงพูดในอุปกรณ์มือถือหรือแท็บเล็ตที่เชื่อมต่อกับหูฟัง เพื่อประเมินความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดปัญหาสมองเสื่อมในอนาคตได้อย่างทันท่วงที
อ.ดร.พญ.นัตวรรณ อุทุมพฤกษ์พร กล่าวในงานเสวนา Chula the Impact ครั้งที่ 14 ว่า “แอปพลิเคชัน EarTest by Eartone เกิดจากโครงการวิจัย Thai Speech Acoustic Virtual Reality Test for the Detection of Early Dementia ที่ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งจากประเทศอังกฤษ โดยมีความร่วมมือกับราชวิทยาลัยวิศวกรรม The Royal Academy of Engineering ภายใต้ทุน Transforming System through Partnership ผ่านโครงการ Newton Fund ทำให้ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญจาก University College of London (UCL) ร่วมกับผู้ร่วมทุนภาคเอกชน นอกจากนี้ ได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจาก British Council และกระทรวงอว. ผ่านโครงการ Thai-UK world class university consortium ที่ช่วยสนับสนุนกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้ จากมหาวิทยาลัยในอังกฤษ
จุดเริ่มต้นโครงการร่วมทุนพัฒนาต่อยอดแอปพลิเคชัน EarTest by Eartone นี้ จากเทคโนโลยีเดิมผ่านการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ทั้งนี้ การที่เราจะพัฒนาการตรวจลักษณะนี้ได้ต้องใช้ทั้งองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่จะต้องมีความร่วมมือกับทางต่างประเทศด้วย ซึ่งทางทีมโชคดีมากที่ได้ร่วมมือกับทาง University College London โดยร่วมมือกับ Professor Stuart Rosen ผู้ที่พัฒนาการตรวจการได้ยินในภาษาต่าง ๆ เกือบทั่วโลก โดยเริ่มจากการเก็บรวบรวมความคิดเห็นและความต้องการของผู้สูงอายุ ซึ่งจะเป็นผู้ใช้จริงมากกว่า 100 คน จากนั้นจึงนำมาออกแบบให้ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด
ผศ.ดร.ยุทธนา รุ่งธรรมสกุล อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์ การได้ยิน คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า เราใช้เทคนิคแบบ Virtual Reality ซึ่งเป็นการจำลองห้องไร้เสียงสะท้อนสภาพเหมือนจริงของเสียงที่เข้ามาจากทิศทางต่าง ๆ ในห้องปฏิบัติการขั้นสูง เพื่อนำมาใช้ในการแปลผลของสมองด้านภาษา เพื่อวิจัยต่อไปว่าผู้รับการประเมินจะบ่งชี้เริ่มมีภาวะสมองเสื่อมหรือ dementia ในอนาคตหรือไม่”
ผู้บริหารของบริษัท เอียร์โทน เอกชนผู้ร่วมทุน ยังกล่าวเสริมอีกว่า “นอกจากเทคโนโลยีของแอปพลิเคชันแล้ว สิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน คือ โดยทั่วไปแล้วการตรวจการได้ยินจะทำในห้องเก็บเสียง ซึ่งจะต้องทำด้วยผนังเหล็ก บุภายในไม่ให้เสียงเข้าไป แต่เดิมเราจะต้องนำเข้าจากเมืองนอก ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงมาก ด้วยการสนับสนุนจาก Eartone ที่ทำงานด้านการได้ยินมากว่า 30 ปี และเป็นเอกชนผู้ร่วมทุน Industrial partner ของโครงการได้พัฒนาตู้สำหรับตรวจการได้ยินตามมาตรฐานสากล ได้รับการรับรองจากศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Unisearch เพื่อลดการนำเข้าจากต่างประเทศ และสามารถนำไปใช้ตามโรงพยาบาลและศูนย์การแพทย์ทั่วประเทศได้ ทำให้ไม่เป็นอุปสรรคอีกแล้วสำหรับหน่วยอนามัย โรงเรียน โรงพยาบาลในต่างจังหวัด ให้เหมือนกับมาตรวจที่โรงพยาบาลใหญ่ ๆ ในกรุงเทพฯ ได้ โดยมีผลไม่ต่างกันเลย นอกจากนี้ ทีมร่วมพัฒนาต่อยอดแอปพลิเคชันตรวจการได้ยินเบื้องต้นที่มีอยู่เดิมของเอียร์โทน ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงการทดสอบที่ละเอียดขึ้น มีประสิทธิภาพและฟังค์ชันที่หลากหลาย ร่วมกับทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยในไทยและต่างประเทศ เพื่อรองรับการใช้งานโดยผู้สูงอายุ”
ศ.ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า โครงการวิจัยได้พัฒนามาจนเกิดเป็นแอปพลิเคชัน Eartest by Eartone นี้ นับเป็นการเตรียมพร้อมของสังคมที่จะรองรับสังคมผู้สูงอายุที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทยอยู่ขณะนี้ ตอบโจทย์วิสัยทัศน์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่จะเป็นมหาวิทยาลัยแห่งชาติในระดับโลกมุ่งยกระดับมาตรฐานการสร้างคน สร้างผู้นำรุ่นใหม่ การลงทุนในการพัฒนาการเรียนการสอน พัฒนางานวิจัยเพื่อสร้างผู้นำแห่งอนาคต และสร้างงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพเพื่อสังคมให้ออกไปรับใช้สังคมด้วยงานวิชาการที่มีความยั่งยืนต่อไป”
ดร.อดิสร เตือนตรานนท์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า “สำหรับ สวทช. เราร่วมสนับสนุนโครงการวิจัยนี้ เพราะโครงการนี้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยให้ประชาชนทั่วไปตระหนักรู้ สามารถเข้ารับการวินิจฉัยในระบบอื่น ๆ ต่อไปได้เร็วยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้สามารถป้องกันความเสี่ยงของภาวะสมองเสื่อมในผู้สูงอายุได้ นับเป็นการร่วมผลักดันการวิจัยพัฒนา ออกแบบ และวิศวกรรม ให้สามารถถ่ายทอดไปสู่การใช้ประโยชน์ได้จริงในวงกว้าง เป็นการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันและพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน”
รศ.ดร.สิรี ชัยเสรี ผู้อำนวยการหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (บพข.) สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กล่าวทิ้งท้ายว่า “ภารกิจหลักของ บพข. คือ การสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ โดยผลักดันให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดงานวิจัยที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริงในเชิงพาณิชย์ ความร่วมมือดังที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นเพื่อช่วยพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพประเทศไทยได้อย่างยั่งยืน นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่ได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชัน EarTest by Eartone เป็นภาษาไทยให้ประชาชนชาวไทยสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันในการตรวจการได้ยินได้ฟรี
ขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูล : https://workpointtoday.com/eartest/