บริษัท Eli Lilly ประกาศความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ NVIDIA เพื่อพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ชุดใหม่ที่ถูกระบุว่า “ทรงพลังที่สุดในอุตสาหกรรมเภสัชกรรม” โดยมีเป้าหมายเร่งการค้นพบยาใหม่และลดเวลาการพัฒนายาในทุกขั้นตอน ถือเป็นหนึ่งในโครงการ AI ด้านยาที่ใหญ่ที่สุดในโลกขณะนี้

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ดังกล่าวจะขับเคลื่อนด้วยกราฟิกโปรเซสเซอร์ (GPU) กว่า 1,000 ตัว ทำหน้าที่เป็น “AI Factory” รองรับการฝึกโมเดลและการประมวลผลตลอดวงจรการพัฒนา AIทั้งหมดโดยใช้พลังงานหมุนเวียนและติดตั้งในศูนย์ปฏิบัติการของบริษัท Eli Lilly เอง

สำหรับงานด้านยา เครื่องคอมพิวเตอร์นี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถฝึกโมเดล AI ด้วยข้อมูลจากการทดลองนับล้านครั้งเพื่อค้นหาตัวยาที่มีศักยภาพ โมเดลเหล่านี้จะถูกรวมอยู่ในแพลตฟอร์ม Lilly TuneLab ซึ่งบริษัทเปิดให้สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีชีวภาพใช้งานฟรี โดยแลกกับข้อมูลฝึกอบรม

Lilly ยังวางแผนนำพลังประมวลผลใหม่ไปใช้ร่นระยะเวลาด้านพัฒนา เช่น การวางแผนการทดลองการประมวลผลภาพทางการแพทย์ และกระบวนการผลิตยา

Kimberly Powell รองประธานด้านการแพทย์ของ NVIDIA กล่าวว่า AI Factory กำลังกลายเป็นเครื่องมือวิทยาศาสตร์ยุคใหม่ ช่วยเปลี่ยนจากการลองผิดลองถูก ไปสู่การออกแบบยาที่แม่นยำตั้งแต่ต้น ส่วน Thomas Fuchs ประธานเจ้าหน้าที่ด้าน AI ของ Lilly เสริมว่า นี่ไม่ใช่แค่เรื่องความเร็ว แต่คือการเข้าใจชีววิทยาในระดับลึก เพื่อเปลี่ยนองค์ความรู้นั้นให้เป็นนวัตกรรมการรักษาใหม่ๆ

แม้การใช้ AI ในอุตสาหกรรมยาจะขยายตัวมาหลายปีแล้ว แต่ความร่วมมือครั้งนี้นับเป็นหมุดหมายสำคัญที่แสดงถึงบทบาทของเทคโนโลยีในอนาคต ปัจจุบันบริษัทยารายใหญ่หลายราย เช่น AstraZeneca, Novo Nordisk และ GSK ต่างจับมือกับ NVIDIA เพื่อเข้าถึงซูเปอร์คอมพิวเตอร์สำหรับงานวิจัยยาโดยเฉพาะ

ตลาด AI ทางการแพทย์เฉพาะทางมีมูลค่าคาดการณ์ว่าจะสูงถึง 512,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี ค.ศ. 2030 ส่งสัญญาณว่าการพัฒนายาโดยใช้ AI จะเป็นหนึ่งในกำลังหลักของอุตสาหกรรมสุขภาพในทศวรรษหน้า

 

ข้อมูลจาก : https://www.cnbc.com/2025/10/28/eli-lilly-nvidia-supercomputer-ai-factory-drug-discovery.html#:~:text=Eli%20Lilly%20and%20Nvidia%20are%20partnering%20to%20build,drug%20discovery%20and%20development%20across%20the%20broader%20sector.?msockid=2bde1c38baf46e963dd20ab8bb306f1b