กระทรวงสาธารณสุขแจงประเด็นคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติมีมติให้ฉีดวัคซีนซิโนแวคในผู้สูงอายุที่มีสุขภาพแข็งแรง เพื่อขยายโอกาสให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดได้รับวัคซีนโดยเร็วที่สุด ส่วนผู้ที่ลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่าน “หมอพร้อม” จะได้แอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นวัคซีนหลักของประเทศ
นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากข้อกังวลของประชาชนหลังคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติมีมติเห็นชอบให้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค ในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปที่มีสุขภาพดี ซึ่งข้อมูลการวิจัยของประเทศจีนพบว่ามีความปลอดภัยและกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี ขอชี้แจงว่าประเด็นดังกล่าว เพื่อเป็นการขยายโอกาสให้ผู้สูงอายุในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้รับการฉีดวัคซีนโดยเร็วที่สุดเพื่อลดอัตราการติดเชื้อ จำกัดวงการแพร่ระบาด ลดการป่วยที่รุนแรง และการเสียชีวิต ระหว่างรอวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้าสำหรับฉีดให้กับคนในประเทศ นอกจากนี้ รวมถึงบุคลากรทางการแพทย์ที่เกษียณอายุ แต่ยังคงปฏิบัติงานนับเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สามารถฉีดซิโนแวคได้เช่นกัน
สำหรับกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ที่ได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่านแพลตฟอร์ม “หมอพร้อม” จะได้รับการฉีดวัคซีนจากแอสตร้าเซนเนก้า ซึ่งเป็นวัคซีนหลักของประเทศ เพราะจะมีวัคซีนชนิดนี้ถึง 16 ล้านโดส ในเดือน มิ.ย. และ ก.ค. 2564 ยกเว้นในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ไม่มีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า มีแต่วัคซีนของซิโนแวค การฉีดขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ ส่วนวัคซีนอื่น ๆ ที่รัฐบาลพยายามจัดหามานั้นเพื่อให้เกิดความครอบคลุมทุกกลุ่มประชากรให้มากที่สุด
“ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าวัคซีนทุกชนิดที่นำมาฉีดให้กับคนในประเทศนั้นมีความปลอดภัย เนื่องจากต้องมีการศึกษาข้อมูลทางวิชาการ มีคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณาก่อนนำมาฉีดให้กับคนในประเทศ มีกระบวนการตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน และประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด-19 และสิ่งที่คำนึงสูงสุด คือ ความปลอดภัยของประชาชนจากการฉีดวัคซีน” นพ.โสภณกล่าว