การศึกษาครั้งใหม่พบว่า การสั่งยาแอนติไบโอติกโดยแพทย์ อาจเป็นการสั่งยาโดยไม่จำเป็นมากถึงร้อยละ 43
“แม้จะมีงานวิจัยจำนวนมากที่ศึกษาการสั่งยาที่ไม่เหมาะสม แต่การค้นพบของเราแสดงให้เห็นว่าเราอาจยังประเมินอัตราส่วนการสั่งยาที่ไม่เหมาะสมนั้นต่ำเกินไป” Michael Ray ผู้นำการเขียนรายงานและเป็นนักวิจัยที่ College of Pharmacy แห่ง Oregon State University กล่าว
ปัญหาของการสั่งยาแอนติไบโอติกมากเกินไปมีอยู่ 2 ประการ ประการแรก ยาเป็นสาเหตุให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรง ประการที่ 2 และมีความสำคัญกว่า คือ การที่ทั่วโลกเต็มไปด้วยยาแอนติไบโอติกส่งผลให้ปริมาณของแบคทีเรียดื้อยาเติบโตมากขึ้นอย่างไม่เคยพบมาก่อน เป็นเชื้อที่ยาแอนติไบโอติกไม่สามารถฆ่าได้
การสั่งยาแอนติไบโอติกอย่างไม่เหมาะสมอาจรุนแรงมากกว่าที่ข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เราเห็น Ray กล่าวและว่า “เนื่องจากการดื้อยาเป็นปัญหาของระบบสุขภาพที่กำลังแพร่ระบาดออกไป จึงมีความจำเป็นที่จะต้องจำกัดการสั่งยาที่ไม่เหมาะสมอย่างสุดความสามารถของเรา”
โดยการใช้ข้อมูลจาก National Ambulatory Medical Care Survey Rey กับคณะผู้ร่วมงานได้รวบรวมข้อมูลการพบแพทย์มากกว่า 990 ล้านครั้งทั่วสหรัฐอเมริกาในปี 2015 ในจำนวนนี้พบว่า ประมาณ 130 ล้านครั้ง (ร้อยละ 13) เป็นการสั่งยาแอนติไบโอติกด้วยการใช้รหัสการวินิจฉัยโรค คณะทำงานของ Rey สามารถระบุได้ว่า การสั่งยานั้นมีความเหมาะสมหรือไม่
คณะผู้วิจัยพบว่า การสั่งยาร้อยละ 57 เป็นการให้ยาด้วยเหตุผลที่ดี แต่ร้อยละ 25 เป็นการสั่งยาที่ไม่เหมาะสม ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 25 จะมีความเหมาะสมหรือไม่นั้น ไม่สามารถระบุได้จากข้อมูลเหล่านี้
การสั่งยาแอนติไบโอติกกว่าร้อยละ 40 ขาดความเหมาะสม
Steven Reinberg, HealthDay News